Instagram กำลังเร่งตามให้ทันคู่แข่งอย่าง TikTok ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอยมานาน นั่นคือการดาวน์โหลดวิดีโอ Reels บนมือถือ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ยอดนิยมที่ทำให้ TikTok ประสบความสำเร็จอย่างมาก การอัปเดตครั้งนี้จะช่วยให้ Reels สามารถแพร่กระจายไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น และอาจสร้างกระแสไวรัลเหมือนที่ TikTok ทำได้ วิธีดาวน์โหลด Reels บน Instagram การดาวน์โหลด Reels สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน: แตะไอคอนแชร์บนวิดีโอ Reels ที่ต้องการดาวน์โหลด เลือกตัวเลือก “ดาวน์โหลด” วิดีโอจะถูกบันทึกลงในคลังรูปภาพของอุปกรณ์ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ใช้ควรทราบ: สามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะ Reels จากบัญชีสาธารณะเท่านั้น เจ้าของบัญชีสามารถปิดการใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ วิดีโอที่ดาวน์โหลดจะมีลายน้ำ Instagram และชื่อบัญชีผู้โพสต์ การแข่งขันในตลาดวิดีโอสั้น การเพิ่มฟีเจอร์ดาวน์โหลดนี้แสดงให้เห็นว่า Instagram พยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง TikTok อย่างเต็มที่ ในขณะที่ TikTok ยังคงพัฒนาเครื่องมือสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง และ YouTube Shorts ก็กำลังขยายตัวทั่วโลก Instagram จำเป็นต้องปรับปรุงฟีเจอร์ให้ทันสมัยเพื่อรักษาฐานผู้ใช้ […]
Tag Archives: Instagram
เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนโลกของเราอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งการเติบโตที่รวดเร็วเกินไปก็อาจนำมาซึ่งปัญหาที่ไม่คาดคิด เช่นเดียวกับกรณีของ Meta บริษัทแม่ของ Facebook ที่กำลังเผชิญกับคดีความสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตของบริษัทอย่างมาก คดีฟ้องร้อง Meta – จุดเริ่มต้นของปัญหา Meta กำลังเข้าสู่การพิจารณาคดีในศาลที่กรุงวอชิงตัน หลังจากถูกคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา (FTC) ฟ้องร้องในข้อหาสร้างการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในตลาดโซเชียลมีเดีย ผ่านการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp เมื่อหลายปีก่อน FTC กล่าวหาว่า Meta ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการคู่แข่งที่มีศักยภาพ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดแพลตฟอร์มโซเชียล ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการแข่งขันทางธุรกิจอย่างเสรีและเป็นธรรม คดีนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2020 ในช่วงปลายสมัยของประธานาธิบดีทรัมป์ โดย FTC มีเป้าหมายให้ Meta แยกตัวสินทรัพย์สำคัญอย่าง Instagram และ WhatsApp ออกไป จุดยืนของทั้งสองฝ่าย ฝั่ง FTC กล่าวหาว่า Meta ซื้อกิจการเพื่อกำจัดคู่แข่งก่อนที่จะเติบโตมาเป็นภัยคุกคาม มองว่าแพลตฟอร์มอย่าง Snapchat หรือ MeWe ไม่ได้เป็นคู่แข่งที่แท้จริงของ Facebook และ Instagram ฝั่ง Meta […]
สังคมออนไลน์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการช็อปปิ้งแบบเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง! เมื่อ Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐฯ เตรียมผนึกกำลังกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง TikTok และ Instagram เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ ที่จะทำให้การซื้อของจากคลิปวิดีโอของอินฟลูเอนเซอร์เป็นเรื่องง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส Walmart ดึงโซเชียลมีเดียเข้าสู่โลกแห่งการช็อปปิ้ง Suresh Kumar ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Walmart เผยว่า บริษัทกำลังพัฒนาระบบที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการซื้อสินค้าได้โดยตรงผ่านแอปโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยไม่ต้องออกจากแอป ซึ่งอาจรวมถึงการผสานบัญชี Walmart และข้อมูลการชำระเงินเข้ากับแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram หรือ YouTube Kumar กล่าวว่า: “เรากำลังทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ เพื่อรวมฟีเจอร์การช็อปปิ้งเข้าไปในแอปของพวกเขาโดยตรง ซึ่งจะช่วยให้การชำระเงินภายในแอปเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้น” ก้าวสำคัญของ Walmart สู่โลกดิจิทัล การร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ Walmart ในการขยายธุรกิจสู่โลกดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อ: สร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ เพิ่มยอดขายจากการซื้อแบบหุนหันพลันแล่น อย่างไรก็ตาม การร่วมมือนี้ยังมีความท้าทายในเรื่องของ: การแบ่งรายได้ การจัดการข้อมูลลูกค้า ระบบการชำระเงิน Walmart vs Amazon ศึกยักษ์ค้าปลีกบนโลกโซเชียล ในขณะที่ Walmart กำลังเดินหน้าเจรจากับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ คู่แข่งอย่าง […]
สื่อโซเชียลที่คุณคุ้นเคยกำลังจะเปลี่ยนไป แต่ไม่ใช่เพราะอัลกอริทึมใหม่อย่างที่หลายคนคิด Meta กำลังจะเปิดตัวระบบ Community Notes ที่ให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลบนแพลตฟอร์มของตนเอง นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะส่งผลต่อวิธีที่เราบริโภคข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย Community Notes คืออะไร และทำงานอย่างไร? Community Notes เป็นระบบที่ให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มบริบทหรือข้อมูลเพิ่มเติมลงในโพสต์ต่างๆ บน Facebook, Instagram และ Threads ได้ โดยมีหลักการทำงานดังนี้: ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนเป็น contributor สามารถเขียน “note” เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในโพสต์ได้ Note แต่ละอันจะถูกให้คะแนนโดยผู้ใช้คนอื่นๆ Note ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ที่มีมุมมองแตกต่างกันจะถูกแสดงใต้โพสต์นั้นๆ ระบบนี้จะไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เขียน Note เพื่อให้ผู้อ่านโฟกัสที่เนื้อหามากกว่าตัวบุคคล ทำไม Meta ถึงเปลี่ยนมาใช้ระบบนี้? Meta ให้เหตุผลว่า: “เมื่อเราเปิดตัวโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในปี 2016 เราต้องการหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ตัดสินความจริง และเชื่อว่าการใช้องค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงจากภายนอกเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่มันไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญก็มีอคติทางการเมืองและมุมมองของตัวเองเช่นกัน ซึ่งส่งผลต่อการเลือกว่าจะตรวจสอบอะไรและอย่างไร” บริษัทหวังว่า Community Notes จะช่วยลดอคติและเพิ่มมุมมองที่หลากหลายมากขึ้นในการให้บริบทเพิ่มเติมแก่เนื้อหาต่างๆ การทดสอบและแผนการในอนาคต Meta จะเริ่มทดสอบ Community […]
Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่อาจเปลี่ยนแปลงวิธีการสนทนาบนแพลตฟอร์มอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการสร้างพื้นที่แสดงความคิดเห็นที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์มากขึ้นบน Instagram ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าจับตามอง Instagram กำลังทดสอบปุ่มใหม่ที่อยู่ถัดจากความคิดเห็น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแสดงความรู้สึกในเชิงลบต่อความคิดเห็นนั้นๆ ได้อย่างเป็นส่วนตัว สิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคือ นี่ไม่ใช่ปุ่ม “ไม่ชอบ” แบบทั่วไปที่เราคุ้นเคย แต่เป็นวิธีการแสดงความรู้สึกแบบส่วนตัวโดยไม่มีการแสดงผลให้ผู้อื่นเห็น ตามที่ Adam Mosseri หัวหน้าทีม Instagram ได้อธิบายไว้ จุดประสงค์ของการทดสอบนี้คือการปรับปรุงประสบการณ์การแสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทกำลังศึกษาว่าจะนำสัญญาณเหล่านี้มาใช้ในการจัดลำดับการแสดงความคิดเห็นอย่างไร แนวคิดคือความคิดเห็นที่ถูกแฟลกว่าเป็นเชิงลบอาจถูกเลื่อนลงไปอยู่ด้านล่างของหน้าแสดงความคิดเห็น เพื่อสร้างพื้นที่สนทนาที่เป็นบวกมากขึ้น ความท้าทายในการสร้างสมดุล ฟีเจอร์ในลักษณะนี้เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันมานานในวงการโซเชียลมีเดีย ความท้าทายอยู่ที่การสร้างสมดุลระหว่างเสรีภาพในการแสดงออกและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร หลายแพลตฟอร์มต่างพยายามหาวิธีจัดการกับความคิดเห็นเชิงลบหรือการละเมิด โดยไม่ต้องใช้วิธีเซ็นเซอร์โดยตรง ปุ่ม “ไม่ชอบ” แบบดั้งเดิมอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด นำไปสู่การรุมประณามและอาจปิดกั้นความคิดเห็นที่หลากหลาย แนวทางของ Instagram ที่ใช้สัญญาณส่วนตัวเป็นความพยายามในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยวิธีที่แตกต่างออกไป ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ความสำเร็จของการทดสอบนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย: ระบบจะสามารถระบุความคิดเห็นเชิงลบได้อย่างแม่นยำเพียงใด ผู้ใช้จะเข้าใจวิธีการทำงานของปุ่มและใช้งานอย่างเหมาะสมหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จะนำไปสู่สภาพแวดล้อมการแสดงความคิดเห็นที่เป็นบวกมากขึ้นจริงหรือไม่ คำถามเหล่านี้จะได้คำตอบก็ต่อเมื่อมีการทดสอบและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้จริง หากการทดสอบประสบความสำเร็จ ฟีเจอร์นี้อาจกลายเป็นมาตรฐานบนแพลตฟอร์ม และอาจส่งผลต่อวิธีการจัดการความคิดเห็นของบริษัทโซเชียลมีเดียอื่นๆ ในอนาคต ส่วนตัวแล้ว ดิฉันชอบใช้โซเชียลมีเดียที่มีความเป็นลบน้อยที่สุด ดังนั้นหากฟีเจอร์นี้ช่วยลดการมองเห็นความคิดเห็นเชิงลบได้ ก็อาจทำให้ประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มโดยรวมของดิฉันน่าพึงพอใจมากขึ้น ดิฉันพร้อมที่จะยอมรับการทดสอบนี้หากมีการเปิดตัวเป็นฟีเจอร์ถาวรในอนาคต