Xiaomi เขย่าวงการสมาร์ตโฟน! เปิดตัว Redmi K80 ซีรีส์ สเปคเทพราคาสุดคุ้ม

Xiaomi's new phones threaten Samsung and Google supremacy

สมาร์ทโฟนระดับกลางกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่! Xiaomi เพิ่งเปิดตัว Redmi K80 Series ที่มาพร้อมสเปคระดับเรือธงในราคาสุดคุ้ม ทำเอาคู่แข่งอย่าง Samsung และ Google ต้องสั่นสะท้าน

Redmi K80 และ K80 Pro มาพร้อมสเปคที่น่าทึ่งมากสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง โดยเฉพาะรุ่นธรรมดาที่มีราคาเพียง $400 เท่านั้น! มาดูกันว่าทำไมสมาร์ทโฟนคู่นี้ถึงได้น่าสนใจขนาดนี้

สเปคเด็ดของ Redmi K80 ที่คุณต้องทึ่ง

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3 พร้อม RAM 12GB – ชิปที่ทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟนราคา $400
  • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6,650 mAh พร้อมชาร์จเร็ว 90W
  • กล้องหลัก 50MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.55 นิ้ว พร้อมซูม 2x
  • หน้าจอระดับเรือธงความสว่างสูงสุด 1,800 nits และรีเฟรชเรต 120Hz
  • Android 15 พร้อมอัปเดต OS หลัก 4 ครั้ง
  • กันน้ำกันฝุ่น IP68
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบอัลตร้าโซนิค

Redmi K80 Pro ยกระดับความแรงไปอีกขั้น

K80 Pro มาพร้อมการอัปเกรดที่น่าสนใจหลายอย่าง:

  • ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite ที่ทรงพลังที่สุดในตลาดขณะนี้
  • กล้องซูม 50MP รูรับแสง f/2.0 ซูมออปติคอล 2.5x และซูมไร้การสูญเสีย 5x
  • รองรับการชาร์จไร้สาย

น่าแปลกใจที่ K80 Pro กลับมีแบตเตอรี่ “เล็กลง” เหลือ 6,000 mAh แต่ด้วยประสิทธิภาพของชิปเซ็ตใหม่ ก็น่าจะทำให้อายุการใช้งานไม่ต่างกันมากนัก

เทียบชั้นเรือธงในราคาสุดคุ้ม

ด้วยสเปคระดับนี้ การเรียก Redmi K80 Series ว่าเป็น “เรือธงคิลเลอร์” อาจไม่เพียงพอ เพราะมันคือสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเต็มตัวในทุกด้าน โดยเฉพาะ K80 Pro

เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกันอย่าง Google Pixel 8a, Samsung Galaxy A55 หรือรุ่นที่กำลังจะเปิดตัวอย่าง Pixel 9a และ Galaxy A56 Redmi K80 ดูจะเหนือชั้นกว่าอย่างชัดเจน ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ แบตเตอรี่ และฟีเจอร์ต่างๆ

ส่งท้าย

Xiaomi กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง การที่สามารถซื้อสมาร์ทโฟนที่มีสเปคระดับเรือธงในราคาเพียง $400-500 ได้ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้บริโภค แต่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับแบรนด์อย่าง Samsung และ Google

ถึงเวลาแล้วที่ผู้ผลิตรายใหญ่จะต้องหันมาให้ความสำคัญกับตลาดระดับกลางอย่างจริงจัง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน มิเช่นนั้นอาจต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับแบรนด์จากจีนอย่าง Xiaomi ในอนาคตอันใกล้นี้

Facebook Comments Box

Leave a Reply