เรื่องราวที่น่าติดตามกำลังเกิดขึ้นในวงการเทคโนโลยี! ศาลสหรัฐฯ เพิ่งมีคำตัดสินครั้งสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อ WhatsApp ในคดีฟ้องร้องบริษัทผู้พัฒนาสปายแวร์ระดับรัฐบาล นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการสอดแนมทางไซเบอร์ทั้งหมด
คำตัดสินที่เป็นประโยชน์ต่อ WhatsApp
ผู้พิพากษา Phyllis Hamilton แห่งศาลในโอคแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ตัดสินว่าบริษัท NSO Group มีความผิดฐานแฮ็กและละเมิดสัญญา ทำให้คดีนี้สามารถดำเนินต่อไปในชั้นศาลเพื่อพิจารณาค่าเสียหายเท่านั้น
คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของ WhatsApp ในการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนานกว่า 5 ปี เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบจากบริษัทผู้พัฒนาสปายแวร์
Will Cathcart หัวหน้าของ WhatsApp กล่าวว่า:
“นี่คือชัยชนะครั้งสำคัญเพื่อความเป็นส่วนตัว เราดำเนินคดีทางกฎหมายมา 5 ปีเพื่อให้บริษัทสปายแวร์ต้องรับผิดชอบ พวกเขาไม่ควรหลีกเลี่ยงความรับผิดหรืออ้างความคุ้มกันสำหรับการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
ความเป็นมาของคดี
WhatsApp ได้ยื่นฟ้อง NSO Group ในปี 2019 โดยกล่าวหาว่าบริษัทใช้ซอฟต์แวร์ Pegasus เข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ WhatsApp อย่างผิดกฎหมาย เพื่อโจมตีเป้าหมายกว่า 1,400 ราย ซึ่งรวมถึงนักข่าว นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และนักวิจารณ์รัฐบาล
สปายแวร์ Pegasus สามารถติดตั้งบนสมาร์ทโฟนได้เพียงแค่โทรเข้า แม้ผู้รับไม่ได้รับสาย ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลในเครื่องได้ทั้งหมด
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสปายแวร์
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์มองว่า คำตัดสินนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมสปายแวร์
John Scott-Railton นักวิจัยอาวุโสจาก Citizen Lab ซึ่งเป็นองค์กรที่เปิดโปงสปายแวร์ Pegasus เป็นครั้งแรกในปี 2016 กล่าวว่า:
“นี่คือคำตัดสินที่เป็นหมุดหมายสำคัญ อุตสาหกรรมสปายแวร์มักปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการใช้งานเครื่องมือของตน แต่คำตัดสินนี้สร้างความรับผิดชอบอย่างชัดเจนสำหรับบริษัทอย่าง NSO ที่ละเมิดมาตรฐานทางกฎหมาย”
คำตัดสินนี้อาจเป็นบรรทัดฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับบริษัทผู้พัฒนาสปายแวร์ในอนาคต และอาจส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ต้องระมัดระวังมากขึ้นในการพัฒนาและจำหน่ายเครื่องมือสอดแนม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องในลักษณะเดียวกัน
เห็นได้ชัดว่าคดีนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานแอปพลิเคชันส่งข้อความ และสร้างมาตรฐานใหม่ในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมสปายแวร์ทั่วโลก