พนักงาน Verizon ลาออก เหตุเครียดงานหนัก-เงินน้อย เพียง 3 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

verizon-rep-quits-low-wage-job-due-to-burnout

สถานการณ์ที่น่าตกใจในวงการโทรคมนาคม! พนักงานศูนย์บริการลูกค้าของ Verizon ตัดสินใจลาออกหลังจากทำงานหนักจนหมดไฟ โดยเผยว่าได้รับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 3 ดอลลาร์เท่านั้น เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายและปัญหาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการให้บริการลูกค้าของบริษัทยักษ์ใหญ่

เบื้องหลังการลาออกที่สร้างความฮือฮา

พนักงานรายนี้ได้โพสต์ข้อความบน Reddit ประกาศลาออกจากงานที่ศูนย์บริการลูกค้าของ Verizon อย่างเปิดเผย โดยระบุว่า:

พรุ่งนี้ฉันจะลาออกจากงานเป็นพนักงานศูนย์บริการลูกค้าของ Verizon ฉันรู้สึกหมดไฟและเหนื่อยล้าเหลือเกิน”

การประกาศลาออกครั้งนี้ได้จุดประเด็นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับสภาพการทำงานที่ยากลำบากในแผนกบริการลูกค้า โดยผู้โพสต์เปิดเผยว่าตนทำงานอยู่ในประเทศแถบอเมริกาใต้ และได้รับค่าจ้างเพียงชั่วโมงละ 3 ดอลลาร์เท่านั้น

นอกจากนี้ยังระบุว่าเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่ยังไม่มีประสบการณ์ ทำให้บริษัทสามารถจ่ายค่าแรงในอัตราที่ต่ำได้

ที่มาของภาพ – Reddit

ความสับสนเรื่องที่ตั้งของศูนย์บริการลูกค้า

ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องคือความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับที่ตั้งของศูนย์บริการลูกค้าของ Verizon ในปัจจุบัน โดยมีการถกเถียงกันว่า:

  • พนักงานคนดังกล่าวระบุว่าได้รับแจ้งระหว่างการฝึกอบรมว่างานบริการลูกค้าทั้งหมดถูกส่งไปทำนอกประเทศ
  • อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้ Reddit อีกรายยืนยันว่าประมาณ 20% ของงานบริการลูกค้าของ Verizon ยังคงอยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • บางคนระบุว่าแม้ศูนย์บริการลูกค้าแบบดั้งเดิมอาจไม่มีแล้ว แต่ยังมีพนักงานบางส่วนที่ทำงานจากที่บ้านในการให้บริการลูกค้า

ปัญหาที่ลูกค้าต้องเผชิญ

จากการสนทนาในกระทู้ Reddit พบว่าลูกค้าหลายรายประสบปัญหาในการติดต่อกับศูนย์บริการของ Verizon ดังนี้:

  • หลายคนบ่นว่ายากที่จะได้คุยกับพนักงานที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
  • มีผู้ใช้ถามวิธีการข้ามขั้นตอนการติดต่อศูนย์บริการในต่างประเทศ แต่ได้รับคำตอบว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากระบบจะส่งต่อสายไปยังพนักงานที่ว่างโดยไม่คำนึงถึงสถานที่ตั้ง
  • บางคนแนะนำให้ใช้ช่องทางแชทแทนการโทรศัพท์ เพื่อเก็บบันทึกการสนทนาไว้เป็นหลักฐาน

คำแนะนำจากพนักงานที่ลาออก

พนักงานที่ประกาศลาออกได้ฝากข้อคิดสำหรับพนักงานหน้าร้านของ Verizon ไว้ดังนี้:

  • หยุดการเพิ่มบริการที่ลูกค้าไม่ได้ขอโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • ไม่ควรให้ข้อมูลที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิดเกี่ยวกับราคา
  • ยกตัวอย่างกรณีผู้สูงอายุรายหนึ่งที่ถูกแจ้งว่าแพ็กเกจจะมีค่าบริการเดือนละ 40 ดอลลาร์ แต่ความจริงแล้วราคาคือ 80 ดอลลาร์โดยไม่มีส่วนลดหรือโปรโมชั่นใดๆ

บทสรุป

เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการทำงานด้านบริการลูกค้า รวมถึงปัญหาการจ้างงานและการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแก่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม เราควรพิจารณาข้อมูลเหล่านี้อย่างรอบคอบ และเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคควรอ่านรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนและยืนยันสิทธิของตนเองเสมอ

Facebook Comments Box

Leave a Reply