การใช้งาน Dual eSIM บน iPhone กับเครือข่าย Verizon กำลังสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้หลายราย จนถึงขั้นมีการพิจารณาย้ายไปใช้บริการของ AT&T แทน ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานโทรศัพท์ในชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการแยกเบอร์ส่วนตัวและเบอร์ทำงานไว้ในเครื่องเดียวกัน
ปัญหาที่ผู้ใช้พบเจอ
ผู้ใช้งาน iPhone รุ่นใหม่ๆ หลายรายรายงานปัญหาการใช้งาน Dual eSIM บนเครือข่าย Verizon ดังนี้:
- ไม่สามารถสลับสายระหว่างการโทรได้
- สายที่โทรเข้ามาในขณะที่กำลังคุยอยู่จะถูกส่งไปยังวอยซ์เมล์ทันที
- สัญญาณหายบ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานร่วมกับ eSIM ของเครือข่ายอื่น
- การเปิด-ปิด WiFi Calling ส่งผลต่อการทำงานของ Dual eSIM
ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานสองเบอร์ในเครื่องเดียว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการแยกเบอร์ส่วนตัวและเบอร์ทำงาน
การแก้ไขปัญหาที่ไม่ได้ผล
ผู้ใช้หลายรายพยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธีต่างๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น:
- รีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่าย
- รีเซ็ตเครื่องเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน
- ติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ Apple และ Verizon
- เปลี่ยนเราเตอร์ WiFi
- ขอเปลี่ยนเครื่องใหม่จาก Apple
แม้จะพยายามแก้ไขด้วยวิธีต่างๆ แล้ว แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่ ทำให้ผู้ใช้หลายรายรู้สึกหงุดหงิดและพิจารณาย้ายไปใช้บริการของเครือข่ายอื่นแทน
ท่าทีของ Verizon และ Apple
ทั้ง Verizon และ Apple ดูเหมือนจะยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน:
- Verizon มักโยนความรับผิดชอบไปที่การตั้งค่า WiFi Calling หรือการใช้งาน Dual eSIM ข้ามเครือข่าย
- Apple มักระบุว่าเป็นปัญหาของทาง Verizon
- ผู้ใช้บางรายถูกแนะนำให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ที่ร้าน ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่สมเหตุสมผล
การขาดความรับผิดชอบและแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนจากทั้งสองฝ่าย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
ผลกระทบต่อผู้ใช้
ปัญหานี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการทำงานของผู้ใช้ เช่น:
- ไม่สามารถรับสายสำคัญได้ในขณะที่กำลังคุยสายอื่นอยู่
- อาจพลาดโอกาสทางธุรกิจหรือการติดต่อที่สำคัญ
- ต้องพกพาโทรศัพท์สองเครื่องเหมือนในอดีต ทั้งที่เทคโนโลยี Dual eSIM ควรจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้แล้ว
- เสียเวลาและความพยายามในการแก้ไขปัญหาที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น
มุมมองของผู้เชี่ยวชาญ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ดิฉันมองว่าปัญหานี้อาจเกิดจากความไม่เข้ากันระหว่างซอฟต์แวร์ของ iPhone กับระบบของ Verizon ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไขและปรับปรุง อย่างไรก็ตาม การที่ปัญหานี้ยังคงอยู่มานานหลายเดือนโดยไม่มีทีท่าว่าจะได้รับการแก้ไข แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องในการให้บริการลูกค้าของทั้ง Verizon และ Apple
ทั้งสองบริษัทควรร่วมมือกันอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหานี้ และสื่อสารกับลูกค้าอย่างโปร่งใสถึงความคืบหน้าในการแก้ไข รวมถึงมีมาตรการชดเชยที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
ทางเลือกสำหรับผู้ใช้
สำหรับผู้ใช้ที่ประสบปัญหานี้ ดิฉันขอแนะนำทางเลือกดังนี้:
- พิจารณาย้ายไปใช้บริการของเครือข่ายอื่น เช่น AT&T หรือ T-Mobile ที่อาจรองรับการใช้งาน Dual eSIM ได้ดีกว่า
- ใช้งานแอปพลิเคชันบุคคลที่สามสำหรับเบอร์ที่สอง เช่น Google Voice หรือ Line
- หากจำเป็นต้องใช้งานกับ Verizon ต่อไป อาจต้องพิจารณาใช้โทรศัพท์สองเครื่องไปก่อนจนกว่าปัญหาจะได้รับการแก้ไข
- ติดตามข่าวสารและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ เผื่อจะมีการแก้ไขปัญหาในอนาคต
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ผู้ใช้ควรแจ้งปัญหาไปยัง Verizon และ Apple อย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันให้มีการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว และเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้รายอื่นๆ ที่อาจประสบปัญหาเดียวกันในอนาคต