สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนในด้านเทคโนโลยีกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อบริษัท Sophgo ของจีนกำลังจะถูกขึ้นบัญชีดำโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ หลังจากพบว่าชิปที่บริษัทออกแบบถูกนำไปใช้ในโปรเซสเซอร์ AI ของ Huawei
ที่มาของปัญหา
TechInsights ได้ทำการแกะชิ้นส่วนโปรเซสเซอร์ AI Ascend 910B ของ Huawei และพบว่ามีชิปที่ผลิตโดย TSMC อยู่ภายใน ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นชิปที่ออกแบบโดย Sophgo บริษัทสัญชาติจีน
ทันทีที่ทราบเรื่องนี้ TSMC ได้แจ้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และระงับการส่งมอบชิปให้กับ Sophgo ในทันที ขณะนี้หน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังดำเนินการสอบสวนกรณีนี้อย่างเข้มงวด
บทลงโทษที่กำลังจะเกิดขึ้น
Sophgo กำลังจะถูกขึ้นบัญชีดำในรายชื่อองค์กร (Entity List) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้:
- ไม่สามารถเข้าถึงซัพพลายเออร์ในสหรัฐฯ ได้ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตพิเศษ
- ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงจากสหรัฐฯ
- อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว
บทลงโทษนี้คล้ายคลึงกับที่ Huawei เคยได้รับในปี 2019 ซึ่งส่งผลให้บริษัทต้องพัฒนาระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ขึ้นมาเองเพื่อทดแทน Android
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีน
การขึ้นบัญชีดำ Sophgo อาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน โดยเฉพาะในด้าน AI และการพัฒนาชิป เนื่องจาก:
- Sophgo เป็นผู้ผลิตชิป AI รายสำคัญของจีน
- ลูกค้าหลักของบริษัทคือหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจจีน
- ชิปของ Sophgo ถูกนำไปใช้ในมหาวิทยาลัยและสถานีตำรวจทั่วประเทศจีน
การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงอาจทำให้จีนพัฒนาอุตสาหกรรม AI และการผลิตชิปได้ช้าลง
“Sophgo ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจโดยตรงหรือโดยอ้อมกับ Huawei” – คำชี้แจงจาก Sophgo เมื่อเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม การพบชิปของ Sophgo ในโปรเซสเซอร์ของ Huawei ทำให้คำชี้แจงนี้น่าสงสัย และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหรัฐฯ ตัดสินใจขึ้นบัญชีดำบริษัท
มุมมองต่อสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ-จีน
การขึ้นบัญชีดำ Sophgo เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ พยายามจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน โดยเฉพาะในด้าน 5G และ AI
แม้จีนจะสามารถพัฒนาชิป 5G เองได้ในที่สุด แต่การถูกตัดขาดจากเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ก็ทำให้การพัฒนาล่าช้าลงอย่างมาก การขึ้นบัญชีดำ Sophgo อาจส่งผลในลักษณะเดียวกันต่ออุตสาหกรรม AI ของจีน
ในขณะเดียวกัน จีนก็กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงเผชิญความท้าทายอีกมากในการไล่ตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของตะวันตก
สงครามเทคโนโลยีนี้คงจะยังดำเนินต่อไป และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้