สาวๆ และหนุ่มๆ ที่รักทุกคน วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณภาพสัญญาณมือถือในสหรัฐอเมริกากันค่ะ! คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางพื้นที่ถึงมีสัญญาณแย่มาก ในขณะที่บางที่กลับดีเยี่ยม? วันนี้เรามีข้อมูลใหม่ล่าสุดมาเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้กันแล้วล่ะค่ะ
ผลการวิจัยล่าสุดจาก Holafly ได้เก็บรวบรวมข้อมูลการร้องเรียนเกี่ยวกับจุดอับสัญญาณมือถือจากเว็บไซต์ DeadCellZones.com กว่า 30,000 รายการ เพื่อคำนวณหาอัตราการร้องเรียนต่อประชากร 1 ล้านคนในแต่ละรัฐและเมือง ผลที่ได้ทำให้เราเห็นภาพรวมของคุณภาพสัญญาณมือถือทั่วประเทศได้อย่างชัดเจนขึ้นเลยค่ะ
เมืองที่มีปัญหาสัญญาณมากที่สุด
ผลการศึกษาพบว่า Cincinnati รัฐโอไฮโอ เป็นเมืองที่มีการร้องเรียนเรื่องจุดอับสัญญาณมากที่สุด โดยมีอัตราการร้องเรียนสูงถึง 534 ครั้งต่อประชากร 1 ล้านคน นอกจากนี้ รหัสไปรษณีย์ 45255 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ Cincinnati ยังเป็นรหัสไปรษณีย์ที่มีการรายงานจุดอับสัญญาณมากที่สุดในประเทศ ด้วยอัตราสูงถึง 6,570 ครั้งต่อประชากร 1 ล้านคนเลยทีเดียวค่ะ
รัฐที่มีปัญหาสัญญาณมากที่สุด
สำหรับในระดับรัฐ ฮาวายครองแชมป์อันดับ 1 ด้วยอัตราการร้องเรียน 282 ครั้งต่อประชากร 1 ล้านคน ตามมาด้วยรัฐเมน 264 ครั้ง และรัฐเวอร์มอนต์ 252 ครั้งตามลำดับค่ะ
“ฉันไม่สนใจหรอกว่าจะมีสัญญาณหรือเปล่า จริงๆ แล้วฉันไม่ต้องการมันด้วยซ้ำ” – John Sargent ชาวเกาะคาอุอาอิ ฮาวาย
น่าสนใจมากเลยใช่ไหมคะ? ปัญหาในฮาวายส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ชาวบ้านคัดค้านการสร้างเสาสัญญาณใหม่ๆ เพราะต้องการรักษาสภาพแวดล้อมดั้งเดิมเอาไว้ค่ะ
เทคโนโลยีใหม่ช่วยแก้ปัญหา
แม้ว่าในปี 2023 จะมีการร้องเรียนเรื่องจุดอับสัญญาณสูงถึง 1 ใน 10 ของการโทรทั้งหมด แต่ในปี 2024 ตัวเลขนี้ลดลงแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยี 5G ช่วยลดปัญหาลงได้มาก
นอกจากนี้ การอัพเกรดเครือข่าย 4G LTE และ 5G ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น carrier aggregation ที่รวมคลื่นความถี่หลายย่านเข้าด้วยกัน ก็ช่วยเพิ่มความเร็วและขยายความจุของเครือข่ายได้มากขึ้น
Andrew Testa โฆษกของ Verizon กล่าวว่า:
“ตอนนี้เราสามารถเปลี่ยนถนน 2 เลนให้กลายเป็น 20 เลนได้แล้ว”
รัฐที่มีปัญหาน้อยที่สุด
ในทางกลับกัน รัฐเซาท์ดาโคตาเป็นรัฐที่มีการร้องเรียนน้อยที่สุด โดยมีเพียง 41 ครั้งต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น
สรุป
- Cincinnati เป็นเมืองที่มีปัญหาจุดอับสัญญาณมากที่สุด
- ฮาวายเป็นรัฐที่มีปัญหามากที่สุด
- เซาท์ดาโคตาเป็นรัฐที่มีปัญหาน้อยที่สุด
- เทคโนโลยี 5G ช่วยลดปัญหาลงได้มาก
- การอัพเกรดเครือข่ายด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางหรือย้ายที่อยู่ในสหรัฐฯ นะคะ อย่าลืมเช็คคุณภาพสัญญาณในพื้นที่ที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจด้วยนะคะ