ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังมาแรง และบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างแข่งขันกันนำเสนอฟีเจอร์ AI มากมาย มีบริษัทรายเล็กอย่าง Nothing ที่กลับเลือกใช้แนวทาง “น้อยแต่มาก” ในการนำ AI มาใช้งานได้อย่างชาญฉลาดและน่าสนใจ
Nothing เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน แต่กลับสามารถสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอฟีเจอร์ AI ที่เรียบง่ายแต่มีประโยชน์จริงๆ ในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทที่ต้องการผสานเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตจริงอย่างกลมกลืน
ฟีเจอร์ AI สุดเจ๋งของ Nothing
ปัจจุบัน Nothing มีฟีเจอร์ AI หลักๆ อยู่ 2 อย่างด้วยกัน:

1. News Reporter
วิดเจ็ตอัจฉริยะที่จะสรุปข่าวสำคัญในหมวดหมู่ที่คุณเลือก พร้อมอ่านออกเสียงด้วยเสียงของ Tim Holbrow ซีเอฟโอของ Nothing ซึ่งเป็นไอเดียที่น่ารักมาก ทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับบริษัทมากขึ้น
News Reporter จะทักทายด้วยประโยคว่า “สวัสดี ผมทิม” ตามด้วยมุกตลกสั้นๆ ก่อนจะเริ่มอ่านข่าว ทำให้การฟังข่าวเป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้น
“สวัสดี ผมทิม วันนี้อากาศดีเหมือนกาแฟร้อนๆ ยามเช้า มาฟังข่าวกันเลยดีกว่า…”
2. Essential Space
แอปใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Nothing Phone (3a) ทำหน้าที่จัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจากภาพหน้าจอและบันทึกเสียง
เพียงกดปุ่ม Essential Key เพื่อถ่ายภาพหน้าจอ หรือกดค้างเพื่อถ่ายภาพพร้อมบันทึกเสียง จากนั้น AI จะทำการ:
- จัดหมวดหมู่ข้อมูล
- ดึงคำสำคัญเพื่อค้นหาได้ง่าย
- สร้างการแจ้งเตือนอัตโนมัติหากพบข้อมูลสำคัญหรือมีกำหนดเวลา
ตัวอย่างการใช้งาน:
- บันทึกข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าสนใจ
- จดจำการแจ้งเตือนสำคัญ
- บันทึกโปสเตอร์งานอีเวนต์
- เก็บที่อยู่จาก Google Maps
ในอนาคต Essential Space จะสามารถบันทึกการประชุมพร้อมถอดเสียงเป็นข้อความได้อีกด้วย

Nothing ทำได้ดีจริงๆ
ดิฉันมองว่าทั้ง 2 ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์และใช้งานได้จริง โดยเฉพาะ Essential Space ที่ช่วยจัดการข้อมูลจากการค้นคว้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วน News Reporter ก็เป็นไอเดียที่น่ารัก แม้จะยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สามารถคลิกอ่านข่าวเต็มได้ แต่ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
สิ่งที่น่าชื่นชมคือ Nothing ไม่ได้รีบร้อนนำ AI มาใส่ในทุกฟีเจอร์ แต่เลือกพัฒนาอย่างรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยจริงๆ สมกับสโลแกน “user experience at the core”
โบนัส: การผสาน ChatGPT
ก่อนที่ Apple จะนำ ChatGPT มาใส่ใน iOS 18 Nothing ก็มีวิธีให้ผู้ใช้คุยกับ AI ได้โดยตรงแล้ว โดยสามารถตั้งค่าให้หูฟัง Nothing Ear เรียกใช้ ChatGPT แทน Google Assistant ได้
นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่แสดงให้เห็นว่า Nothing กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ แม้จะเป็นบริษัทเล็กๆ ก็ตาม
ดิฉันหวังว่าบริษัทใหญ่ๆ จะได้เรียนรู้จาก Nothing ในการพัฒนาฟีเจอร์ AI ที่มีประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่แค่ตามกระแสเท่านั้น เพื่อให้เราได้ใช้สมาร์ทโฟนที่ฉลาดขึ้นอย่างแท้จริง!