เทคโนโลยีการผลิตชิปกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังพิจารณาปรับขึ้นราคาอย่างมหาศาล เพื่อรับมือกับภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ กำลังจะบังคับใช้ การปรับขึ้นราคานี้อาจส่งผลกระทบต่อราคาสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
TSMC เตรียมปรับขึ้นราคาชิปสูงถึง 15%
จากรายงานล่าสุด TSMC กำลังพิจารณาปรับขึ้นราคาการผลิตชิปสูงถึง 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่เคยเสนอไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5% อย่างมาก การปรับขึ้นราคาครั้งใหญ่นี้มีสาเหตุหลักมาจากภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ กำลังจะบังคับใช้ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตของ TSMC
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
การปรับขึ้นราคาของ TSMC จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่ออุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก เนื่องจาก TSMC เป็นผู้ผลิตชิปให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น:
- Apple
- Qualcomm
- NVIDIA
- AMD
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง Samsung กำลังเผชิญความท้าทาย เนื่องจาก Qualcomm ก็มีแผนปรับขึ้นราคาชิป Snapdragon 8 Elite Gen 2 ด้วยเช่นกัน ทำให้ Samsung อาจต้องเลือกระหว่างการขึ้นราคาสมาร์ทโฟน หรือลดคุณภาพชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น จอแสดงผลหรือกล้อง เพื่อรักษาระดับราคาไว้
“ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับราคาสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้”
ทางออกของอุตสาหกรรม
แม้จะเป็นสถานการณ์ที่ท้าทาย แต่อุตสาหกรรมก็มีทางออกบางประการ:
- TSMC อาจย้ายฐานการผลิตบางส่วนมาที่สหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า โดยปัจจุบันมีโรงงานหลายแห่งกำลังก่อสร้างในสหรัฐฯ
- การเจรจาข้อตกลงพิเศษกับรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น Apple ที่เคยได้รับการยกเว้นภาษีในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์
- การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการเหล่านี้ต้องใช้เวลา ในระยะสั้น ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับราคาสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตจำเป็นต้องส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมายังผู้บริโภค
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และผลกระทบของนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่มีต่อผู้บริโภคทั่วโลก เราจะต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิดต่อไป