สาวกนักช้อปออนไลน์ระวัง! ราคาสินค้าจาก Temu และ Shein อาจพุ่งสูงขึ้นถึง 30% หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศยกเลิกข้อยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่องทางที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมเหล่านี้ใช้หลบเลี่ยงภาษีมาโดยตลอด
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของ Temu และ Shein รวมถึงผู้บริโภคชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการซื้อสินค้าราคาถูกจากจีน
ทำไม Temu และ Shein ถึงได้รับผลกระทบ?
Temu และ Shein เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอาศัยประโยชน์จากกฎ “de minimis” ที่อนุญาตให้นำเข้าสินค้ามูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์โดยไม่ต้องเสียภาษี ทำให้สามารถเสนอราคาสินค้าที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดได้มาก
อย่างไรก็ตาม การยกเลิกข้อยกเว้นนี้จะทำให้สินค้าจาก Temu และ Shein ต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย
ผลกระทบต่อผู้บริโภค
การเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้บริโภคชาวอเมริกัน ดังนี้:
- ราคาสินค้าอาจเพิ่มขึ้นถึง 30%
- ทางเลือกในการซื้อสินค้าราคาประหยัดอาจลดลง
- อาจต้องหันไปซื้อสินค้าจากแบรนด์ในประเทศที่มีราคาสูงกว่า
ผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซอื่นๆ
นอกจาก Temu และ Shein แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้ยังส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ ด้วย เช่น:
- Amazon อาจได้รับผลกระทบจากแพลตฟอร์ม Haul ที่เพิ่งเปิดตัว
- ผู้ขายรายย่อยบน eBay และแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่นำเข้าสินค้าจากจีน

มุมมองของรัฐบาล
รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าการยกเลิกข้อยกเว้นนี้จะช่วย:
- ลดการหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทจีน
- ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ
- เพิ่มรายได้จากภาษีนำเข้า
“บริษัทอย่าง Shein และ Temu อาจหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีนำเข้าไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์” – รายงานจาก Peterson Institute for International Economics
ผลกระทบในระยะยาว
การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อภูมิทัศน์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดย:
- อาจเกิดการปรับตัวของโมเดลธุรกิจ Temu และ Shein
- ผู้บริโภคอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้า
- อาจเกิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในประเทศ
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าในระยะสั้น แต่ก็อาจนำไปสู่การแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซในระยะยาว ผู้บริโภคควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาทางเลือกในการซื้อสินค้าอย่างรอบคอบ