สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% ซึ่งอาจทำให้ราคา iPhone ในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก แต่ยังมีความหวังเล็กๆ ที่ Apple อาจได้รับการยกเว้น หากทรัมป์ตัดสินใจโดยใช้ “สัญชาตญาณ” ของเขา
สถานการณ์ล่าสุดของสงครามการค้า
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศเป็นเวลา 90 วัน ยกเว้นจีนที่ยังคงถูกขึ้นภาษีเป็น 125% ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ Apple เนื่องจากบริษัทผลิตสินค้าส่วนใหญ่ในจีน โดยเฉพาะ iPhone ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก
ทรัมป์กล่าวว่าอาจพิจารณายกเว้นภาษีให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด แต่จะตัดสินใจโดยใช้ “สัญชาตญาณ” ซึ่งสร้างความกังวลให้กับ Tim Cook ซีอีโอของ Apple เป็นอย่างมาก
ผลกระทบต่อ Apple และราคา iPhone
หากไม่ได้รับการยกเว้น Apple อาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก:
- รับภาระภาษีนำเข้าเองทั้งหมด ซึ่งจะกระทบกำไรอย่างหนัก
- ขึ้นราคา iPhone ในสหรัฐฯ อย่างมาก อาจสูงถึง 3 เท่าของราคาปัจจุบัน
- ย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปยังประเทศอื่น เช่น อินเดียหรือเวียดนาม ซึ่งต้องใช้เวลานาน
“ราคา iPhone รุ่นท็อปอย่าง iPhone 17 Pro Max ความจุ 1TB อาจพุ่งสูงถึงกว่า 4,000 ดอลลาร์ในปีหน้า หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย” – นักวิเคราะห์อุตสาหกรรม
ความสัมพันธ์ระหว่าง Trump และ Tim Cook
แม้ว่า Tim Cook จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยให้ Apple ได้รับการยกเว้นภาษีหรือไม่ เนื่องจากทรัมป์ระบุว่าจะตัดสินใจโดยใช้สัญชาตญาณ ซึ่งในอดีตมักนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
ผลกระทบต่อหุ้น Apple
ราคาหุ้น Apple ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์นี้:
- ลดลง 6.72% หรือ 13.37 ดอลลาร์ในวันที่ 10 เมษายน 2025
- มูลค่าตลาดลดลงเหลือ 2.81 ล้านล้านดอลลาร์
- เสียตำแหน่งบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดให้กับ Microsoft ชั่วคราว ก่อนจะกลับมานำอีกครั้งด้วยส่วนต่างเพียงเล็กน้อย
สถานการณ์นี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์และการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในอนาคต ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อ Apple และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวม
