สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของ Apple อาจกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปีหน้า โดยมีรายงานว่า iPhone 17 Pro และ Pro Max อาจจะไม่ใช้วัสดุไทเทเนียมสำหรับตัวเครื่องอีกต่อไป ทั้งที่เพิ่งเริ่มใช้วัสดุนี้มาเพียง 2 ปีกับ iPhone 15 Pro เท่านั้น
เหตุผลที่ Apple อาจเลิกใช้ไทเทเนียม
มีการคาดการณ์ว่าสาเหตุหลักที่ Apple อาจตัดสินใจเลิกใช้ไทเทเนียมมี 3 ประการ:
- ผลกระทบจากสงครามการค้า – หากโดนัลด์ ทรัมป์ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง อาจทำให้สงครามการค้ากับจีนรุนแรงขึ้น ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตไทเทเนียมรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้ราคาวัสดุนี้แพงขึ้น
- ราคาที่สูงอยู่แล้ว – ไทเทเนียมมีราคาสูงกว่าสแตนเลสและอะลูมิเนียมอยู่แล้ว การใช้วัสดุนี้ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
- ไม่ได้ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญ – แม้จะใช้ไทเทเนียม แต่ iPhone 15 Pro ก็มีน้ำหนักลดลงเพียง 9% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้สแตนเลส ซึ่งไม่ได้เป็นข้อได้เปรียบมากนัก
แนวโน้มการใช้วัสดุในอนาคต
จากข้อมูลที่มีการเปิดเผย Apple อาจหันไปใช้อะลูมิเนียมแทนไทเทเนียมสำหรับ iPhone 17 Pro รุ่นใหม่ เนื่องจาก:
- อะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่าสแตนเลส สอดคล้องกับเทรนด์สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่เน้นความบางเบา
- ราคาถูกกว่าไทเทเนียม ช่วยลดต้นทุนการผลิต
- Apple คุ้นเคยกับการใช้อะลูมิเนียมในไอโฟนรุ่นทั่วไปอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนมาใช้อะลูมิเนียมอาจมีข้อเสียในแง่ความทนทาน เนื่องจากวัสดุนี้มีความแข็งแรงน้อยกว่าสแตนเลสและไทเทเนียม
“การเลือกใช้วัสดุเบากว่าแต่อาจแลกมาด้วยความแข็งแรงที่ลดลง จะคุ้มค่าหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป”
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องปัญหาความร้อนของ iPhone 15 Pro ที่อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ไทเทเนียม แม้ Apple จะแก้ไขไปบางส่วนใน iPhone 16 Pro แล้ว แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว
การตัดสินใจครั้งนี้ของ Apple จึงน่าจับตามองว่าจะส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพของ iPhone รุ่นท็อปในอนาคตอย่างไร รวมถึงอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนโดยรวมด้วย