ทรัมป์ต่อเวลาขาย TikTok หลังขึ้นภาษีจีนทำข้อตกลงล่ม

สถานการณ์ของ TikTok ในสหรัฐอเมริกายังคงไม่แน่นอน หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ขยายเส้นตายการขายแอปฯ ออกไปอีก 75 วัน ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ข้อตกลงการขาย TikTok ให้กับนักลงทุนสหรัฐฯ ต้องล้มเลิกไป เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 54% ส่งผลให้ปักกิ่งไม่พอใจและยกเลิกการเจรจา

ความเป็นมาของปัญหา TikTok ในสหรัฐฯ

TikTok เป็นแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 1 พันล้านคน แต่รัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลว่าบริษัทแม่ ByteDance ของจีนอาจส่งข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน รวมถึงอาจใช้แอปฯ เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ

ด้วยเหตุนี้ อดีตประธานาธิบดีไบเดนจึงได้ลงนามในกฎหมายเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว กำหนดให้ ByteDance ต้องขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ภายในวันที่ 19 มกราคม 2025 มิฉะนั้นจะถูกสั่งห้ามให้บริการในประเทศ

ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อ TikTok

ในช่วงการดำรงตำแหน่งสมัยแรก ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้ ByteDance ขาย TikTok ให้กับนักลงทุนสหรัฐฯ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่สอง ทรัมป์กลับมีท่าทีที่อ่อนลงต่อ TikTok เนื่องจากเชื่อว่าแอปฯ นี้มีส่วนช่วยให้เขาได้รับคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แต่ยังคงต้องการให้แอปฯ อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทสหรัฐฯ

การขยายเส้นตายล่าสุด

เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2025 ก่อนถึงกำหนดเส้นตายเดิม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งขยายเวลาออกไปอีก 75 วัน โดยประกาศผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของตนเอง

“เราจะให้เวลาอีก 75 วันสำหรับการเจรจาขาย TikTok ให้กับนักลงทุนสหรัฐฯ เพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติและข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน” – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ผู้สนใจซื้อกิจการ TikTok

มีรายงานว่ามีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายรายในสหรัฐฯ ที่สนใจเข้าซื้อกิจการ TikTok ได้แก่:

• Oracle
• AppLovin
• Walmart
• Amazon

ก่อนหน้านี้มีการเจรจาที่ใกล้บรรลุข้อตกลง โดยนักลงทุนสหรัฐฯ จะถือหุ้นส่วนใหญ่ ขณะที่ ByteDance จะยังคงถือหุ้นส่วนน้อย แต่ข้อตกลงต้องล้มเลิกไปหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน

มุมมองต่ออนาคตของ TikTok

การขยายเส้นตายครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้ TikTok ในสหรัฐฯ ยังคงสามารถใช้งานแอปฯ ได้อีกอย่างน้อย 75 วัน และเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาในการเจรจาต่อรองเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ตึงเครียดขึ้นจากสงครามการค้า อาจส่งผลให้การเจรจาเป็นไปอย่างยากลำบาก ท่ามกลางความกังวลด้านความมั่นคงและการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ภายในกำหนด รัฐบาลสหรัฐฯ อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การกำหนดมาตรการควบคุมการใช้งาน TikTok อย่างเข้มงวด หรือการสั่งห้ามใช้งานแอปฯ ในประเทศอย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานและอุตสาหกรรมโซเชียลมีเดียในวงกว้าง