TikTok ถูกแบน ผู้ใช้แห่เรียนภาษาจีนเพื่อใช้แอพใหม่ RedNote

TikTok-exodus-beneficiary-app-profits-silently-as-users-shift-platforms

เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็ว และบางครั้งก็สร้างสถานการณ์แปลกๆ ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เช่นเดียวกับกรณีล่าสุดของแอพ TikTok ที่กำลังจะถูกแบนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งนำไปสู่การอพยพครั้งใหญ่ของผู้ใช้ไปยังแพลตฟอร์มใหม่อย่าง RedNote แต่เรื่องราวไม่ได้จบแค่นั้น เพราะมีแอพที่สามที่กำลังได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย

การอพยพครั้งใหญ่จาก TikTok สู่ RedNote

ตามที่ประธานาธิบดีคนใหม่ Donald Trump ได้ประกาศว่าจะแบนแอพ TikTok ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม เว้นแต่จะมีการออกข้อยกเว้นพิเศษ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากเริ่มอพยพไปยังแพลตฟอร์มใหม่อย่าง RedNote ซึ่งเป็นแอพสัญชาติจีนเช่นเดียวกับ TikTok

อย่างไรก็ตาม RedNote ยังไม่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ทำให้ผู้ใช้ชาวอเมริกันต้องใช้งานแอพในภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) ซึ่งนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง

Duolingo ได้รับประโยชน์โดยไม่ต้องทำอะไร

แอพเรียนภาษายอดนิยมอย่าง Duolingo กลับเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เนื่องจากผู้ใช้ชาวอเมริกันจำนวนมากหันมาเรียนภาษาจีนกลางเพื่อใช้งาน RedNote

Duolingo รายงานว่ามีผู้ใช้ชาวอเมริกันลงทะเบียนเรียนภาษาจีนกลางเพิ่มขึ้นถึง 216%

ทางบริษัทถึงกับออกมาล้อเลียนสถานการณ์นี้อย่างขำๆ ว่าในที่สุดผู้คนก็หาเหตุผลมาเรียนภาษาจีนกลางเสียที

RedNote ไม่ได้ยินดีกับกระแสนี้

ในขณะที่ Duolingo กำลังเฮฮากับยอดผู้ใช้ที่พุ่งสูงขึ้น RedNote กลับไม่ได้ยินดีกับกระแสความนิยมในสหรัฐอเมริกามากนัก แพลตฟอร์มนี้กำลังพิจารณาที่จะสร้างฟิลเตอร์แยก IP ต่างชาติออกจาก IP ของจีน เพื่อลดอิทธิพลของสหรัฐฯ ต่อผู้ใช้ชาวจีน

นอกจากนี้ RedNote ยังเริ่มแบนบัญชีผู้ใช้ชาวอเมริกันที่โพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และอาจแยกแพลตฟอร์มออกเป็นสองส่วนสำหรับผู้ใช้ชาวจีนและผู้ใช้ต่างชาติ คล้ายกับที่ TikTok ทำอยู่ในปัจจุบัน

สรุป

สถานการณ์นี้นับเป็นเรื่องน่าขันอย่างยิ่ง ในขณะที่สหรัฐฯ พยายามลดอิทธิพลของจีนโดยการแบน TikTok ชาวอเมริกันกลับหันไปใช้แพลตฟอร์มของจีนอีกแห่งแทน ส่วนแอพอย่าง Instagram ที่หวังว่าจะได้ผู้ใช้เพิ่มก็คงผิดหวังไม่น้อย

แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า TikTok จะถูกแบนจริงหรือไม่ แต่หากไม่มีบริษัทอเมริกันเข้าซื้อกิจการ อนาคตของ TikTok ในสหรัฐฯ ก็คงริบหรี่เต็มที เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในทิศทางใด

Facebook Comments Box

Leave a Reply