สถานการณ์ของ TikTok ในสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ หลังจากที่แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียยอดนิยมนี้ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน ล่าสุด TikTok ได้ออกมายอมรับว่าสถานการณ์ดูไม่สู้ดีนัก และมีแนวโน้มที่แอปจะต้อง “ดับ” ในวันอาทิตย์นี้
สาเหตุที่ TikTok ถูกสั่งห้ามในสหรัฐฯ
การที่ TikTok ถูกสั่งห้ามในสหรัฐอเมริกามีสาเหตุหลักมาจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ มีความกังวลในประเด็นต่อไปนี้:
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น
- ความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปยังรัฐบาลจีน
- ช่องทางการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อจากรัฐบาลจีนสู่เยาวชนอเมริกัน
ด้วยเหตุนี้ ทั้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน ต่างก็พยายามผลักดันให้ TikTok ขายกิจการให้บริษัทอเมริกัน
ความพยายามครั้งสุดท้ายของ TikTok
TikTok ได้พยายามต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อคัดค้านคำสั่งห้าม แต่ล่าสุดศาลฎีกาสหรัฐฯ ได้ตัดสินไม่รับพิจารณาคำร้องของ TikTok โดยให้เหตุผลว่า:
“ขนาดและความเสี่ยงที่ TikTok จะถูกควบคุมโดยต่างชาติ รวมถึงปริมาณข้อมูลที่อ่อนไหวจำนวนมหาศาลที่แพลตฟอร์มเก็บรวบรวม เป็นเหตุผลที่สมควรให้มีการปฏิบัติที่แตกต่างเพื่อจัดการกับความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ”
โอกาสสุดท้ายของ TikTok
แม้สถานการณ์จะดูเลวร้าย แต่ TikTok ยังมีความหวังเล็กๆ หากสามารถแสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าในการเจรจาขายกิจการให้บริษัทอเมริกัน ซึ่งอาจทำให้ได้รับการขยายเวลาออกไปอีก 90 วัน
อย่างไรก็ตาม เวลากำลังจะหมดลง TikTok ได้ออกแถลงการณ์ว่า:
“หากรัฐบาลไบเดนไม่ให้คำชี้แจงที่ชัดเจนแก่ผู้ให้บริการที่สำคัญต่อการดำเนินงานของ TikTok โดยทันที น่าเสียดายที่ TikTok จะถูกบังคับให้ดับลงในวันที่ 19 มกราคม”
บทสรุป
สถานการณ์ของ TikTok ในสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติ หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้าย แอปพลิเคชันยอดนิยมที่มีผู้ใช้กว่า 170 ล้านคนในสหรัฐฯ อาจต้องปิดตัวลงในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวงการโซเชียลมีเดียและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี