สเปกตรัมกำลังจะถูกสับเปลี่ยน! T-Mobile, AT&T และ Verizon เตรียมทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ครั้งใหญ่ เพื่อยกระดับบริการเครือข่ายไร้สายให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการแต่อย่างใด
ล่าสุดมีรายงานว่า T-Mobile กำลังเจรจาแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่กับ AT&T และ Verizon ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย โดยข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ระบุว่า การแลกเปลี่ยนนี้จะครอบคลุมคลื่นความถี่หลายย่าน ได้แก่ PCS, AWS, 700MHz, 600MHz และ 2.5GHz ในหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐอเมริกา
รายละเอียดการแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่
- T-Mobile และ AT&T จะแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ในย่าน PCS, AWS-1, AWS-3 และ 700MHz
- T-Mobile และ Verizon จะแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ในย่าน AWS, PCS, 600MHz และ 2.5GHz
การแลกเปลี่ยนนี้เป็นเพียงการโอนใบอนุญาตคลื่นความถี่เท่านั้น ไม่มีการโอนทรัพย์สินหรือฐานลูกค้าแต่อย่างใด และในหลายกรณีจะเป็นการแลกเปลี่ยนในปริมาณที่เท่ากัน ทำให้การถือครองคลื่นความถี่โดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง
ประโยชน์ที่จะได้รับ
การแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ครั้งนี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายสามารถ:
- ใช้งานคลื่นความถี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- มีบล็อกคลื่นความถี่ที่ต่อเนื่องกันมากขึ้น
- ลดการรบกวนกันระหว่างพื้นที่ให้บริการที่อยู่ติดกัน
- เพิ่มความจุและความเร็วในการรับส่งข้อมูล
- ปรับปรุงคุณภาพบริการโดยรวม
“การดำเนินการเหล่านี้จะไม่ลดจำนวนผู้แข่งขัน บริการ หรือตัวเลือกสำหรับลูกค้าในตลาดใดๆ จึงไม่ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการรวมคลื่นความถี่หรือการแข่งขัน” – เอกสารยื่นต่อ FCC
ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
FCC ได้ประเมินแล้วว่าข้อตกลงนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เนื่องจากการใช้คลื่นความถี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นจะส่งผลให้บริการดีขึ้น โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริการที่มีอยู่เดิม และผู้ใช้บริการจะไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงใดๆ
“การเปลี่ยนแปลงนี้จะราบรื่นและมองไม่เห็นสำหรับลูกค้าปลายทาง จะไม่มีการยกเลิก ลด สูญเสีย หรือด้อยคุณภาพของบริการแต่อย่างใด” – เอกสารยื่นต่อ FCC
มุมมองของ T-Mobile
T-Mobile ดูเหมือนจะมีความต้องการคลื่นความถี่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลื่นความถี่ย่านกลาง ในขณะเดียวกันก็มีการจัดสรรคลื่นความถี่มิลลิมิเตอร์เวฟ (mmWave) ใหม่ด้วย
Ulf Ewaldsson หัวหน้าฝ่ายเครือข่ายของ T-Mobile กล่าวว่าบริษัทต้องการเพิ่มการถือครองคลื่นความถี่ให้มากที่สุด โดยมองว่าย่าน 24GHz เป็นย่านที่มีค่ามากที่สุดสำหรับการใช้งาน mmWave และจะยังคงใช้ในสถานที่ที่ต้องการความจุพิเศษ เช่น สนามกีฬา
ดูเหมือนว่าการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคมสหรัฐฯ จะยังคงดุเดือดต่อไป โดยผู้ให้บริการรายใหญ่ต่างพยายามปรับปรุงเครือข่ายของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า การแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ครั้งนี้จึงเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับคุณภาพบริการโดยรวมของทั้งอุตสาหกรรม