T-Mobile เสนอสายฟรี แต่ลูกค้าโวยถูกเก็บเงินโดยไม่คาดคิด

T-Mobile's free offer backfires in PR disaster

สถานการณ์กำลังร้อนระอุสำหรับ T-Mobile หลังจากความพยายามในการควบคุมความเสียหายจากการขึ้นราคาแพ็กเกจเก่าๆ กลับกลายเป็นหายนะครั้งใหม่ เมื่อโปรโมชั่น “สายฟรี” ที่เปิดตัวเพื่อเยียวยาลูกค้า กลับสร้างความสับสนและความไม่พอใจให้กับผู้ใช้บริการจำนวนมาก

ความวุ่นวายจากสายฟรีที่ไม่ฟรี

ลูกค้าหลายรายต่างพากันแสดงความไม่พอใจบนโลกออนไลน์ หลังพบว่าบิลค่าบริการล่าสุดมียอดเงินที่ไม่คาดคิด ทั้งที่พวกเขาเห็นข้อเสนอสายฟรีในแอป T-Life และเชื่อว่าตนเองมีสิทธิ์ได้รับ บางรายถูกเรียกเก็บเงินทั้งสำหรับสายใหม่และค่าธรรมเนียมกลางรอบบิล

“วันนี้ผมได้รับใบแจ้งหนี้ และพวกเขาไม่เพียงแต่คิดเงิน $70.85 สำหรับสายฟรีที่ผมเพิ่มภายใต้โปรโมชั่นเดือนที่แล้ว แต่ยังคิดเพิ่มอีก $26.84 สำหรับการเปลี่ยนแปลงกลางรอบบิล สายฟรีอีกสายที่ผมได้รับในช่วงโควิดก็ถูกขึ้นราคา (ไม่ฟรีอีกต่อไป) พวกเขาให้เครดิตกับผม และบอกว่าจะแก้ไขให้ก่อนรอบบิลถัดไป น่าหงุดหงิดมากที่ต้องเสียเวลาวันเสาร์ไป 30 นาทีกับเรื่องนี้…” – elodam, Reddit, เมษายน 2025

ปัญหาไม่ได้เกิดกับแค่คนเดียว

ผู้ใช้รายอื่นๆ ก็ได้แชร์ประสบการณ์คล้ายกัน ทั้งการถูกเรียกเก็บเงินโดยไม่คาดคิด หรือต้องต่อสู้เพื่อขอเงินคืนหลังจากถูกบอกว่าไม่มีสิทธิ์ได้รับโปรโมชั่นตั้งแต่แรก ทั้งที่ข้อเสนอถูกนำเสนอให้พวกเขาโดยตรง

แม้ว่าความผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเห็นเสียงบ่นมากมายเกี่ยวกับสายที่ถูกเรียกว่า “ฟรี” นี้ ถือเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสำหรับ T-Mobile อย่างยิ่ง

ไม่ใช่ทุกคนที่มีปัญหา

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ประสบปัญหา ลูกค้าบางรายรายงานว่าทุกอย่างราบรื่นดี ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสายฟรีจริงๆ หรือสามารถแก้ไขค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเล็กน้อยได้อย่างรวดเร็วหลังจากติดต่อฝ่ายสนับสนุน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ประสบปัญหา

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่เผชิญกับบิลที่สูงกว่าที่คาดไว้ สิ่งสำคัญคือต้องติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ T-Mobile และจัดการปัญหาให้เร็วที่สุด มิฉะนั้นคุณอาจต้องติดอยู่กับบิลที่พองขึ้นเป็นเวลาหลายเดือน

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายกล่าวว่าโปรโมชั่นอาจใช้เวลาถึงสองรอบบิลกว่าจะมีผล ดังนั้นคุณอาจต้องจ่ายค่าบริการอย่างน้อยหนึ่งหรือสองครั้ง แต่ T-Mobile น่าจะคืนเงินให้ในภายหลัง

ปัญหาการเรียกเก็บเงินไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการ

ปัญหาการเรียกเก็บเงินไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับ T-Mobile เท่านั้น ผู้ให้บริการมือถือมีประวัติยาวนานในเรื่องความผิดพลาดด้านการเรียกเก็บเงิน ตัวอย่างเช่น:

  • ลูกค้า Verizon รายหนึ่งแชร์ประสบการณ์การต่อสู้กับปัญหาการเรียกเก็บเงินที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • อีกรายถูกเรียกเก็บเงิน $700 ทั้งที่ไม่เคยเป็นลูกค้า Verizon มาก่อน
  • ลูกค้า AT&T พบว่าส่วนลดที่ได้รับสัญญาหายไปอย่างลึกลับ ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับบิลที่ไม่สามารถจ่ายได้

ดูเหมือนว่าความผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินจะเป็นปัญหาทั่วไปในอุตสาหกรรมนี้ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะใช้บริการผู้ให้บริการรายใด การตรวจสอบบิลอย่างละเอียดและติดตามข้อเสนอต่างๆ อย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

Facebook Comments Box

Leave a Reply