ดูเหมือนว่า T-Mobile กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงแอพพลิเคชันของตัวเอง ผู้ใช้บริการจำนวนมากไม่พอใจกับแอพ T-Life ตัวใหม่ที่ถูกบังคับให้ใช้แทนแอพเดิมๆ หลายตัว แม้ว่า T-Mobile จะโฆษณาว่าเป็น “super app” แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม
การเปลี่ยนแปลงที่สร้างปัญหา
T-Mobile ได้ทยอยยกเลิกแอพพลิเคชันแยกต่างๆ ที่เคยมีมาก่อนหน้านี้:
- แอพ T-Mobile Tuesdays ถูกยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว
- แอพหลักของ T-Mobile ถูกถอดออกจาก Google Play และ App Store ในเดือนพฤศจิกายน 2024
- ผู้ใช้ที่ยังคงใช้แอพเก่าอยู่ถูกกดดันให้เปลี่ยนมาใช้แอพ T-Life ตัวใหม่
ทั้งหมดนี้ถูกแทนที่ด้วยแอพ T-Life เพียงตัวเดียว ซึ่งรวมฟีเจอร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการบัญชี การตั้งค่านาฬิกาสำหรับเด็ก หรือการรับสิทธิพิเศษต่างๆ
เสียงสะท้อนจากผู้ใช้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บริการจำนวนมากไม่พอใจกับแอพ T-Life อย่างมาก โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์บน Reddit อย่างหนัก:
- “แย่มาก“
- “น่าผิดหวังอย่างมาก“
- “ถอยหลังไปไกล”
- “มีโฆษณาเยอะเกินไป”
- “บั๊กเยอะ”
- “ใช้งานยาก”
ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมาหลายเดือนแล้ว แสดงให้เห็นว่า T-Mobile ไม่ได้ใส่ใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
สาเหตุของปัญหา
“สาเหตุที่ T-Mobile กลายเป็นบริษัทที่ไม่ใส่ใจลูกค้าเช่นนี้ก็เพราะการแข่งขันที่อ่อนแอในตลาด”
แม้ผู้ใช้จะไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เนื่องจาก Verizon และ AT&T ก็มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ทั้งในแง่ค่าบริการและคุณภาพเครือข่าย
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการกับ Sprint ในปี 2020 ก็ทำให้ T-Mobile สูญเสียแนวคิด “Un-carrier” ที่เคยมี และไม่ได้ใส่ใจลูกค้าเหมือนเดิมอีกต่อไป
บทสรุป
ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่า T-Mobile กำลังสูญเสียตัวตนที่เคยเป็น “Un-carrier” ไปอย่างน่าเสียดาย การบังคับให้ลูกค้าเปลี่ยนมาใช้แอพใหม่ที่ยังไม่พร้อม โดยไม่รับฟังเสียงสะท้อนอย่างจริงจัง เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมาก
T-Mobile ควรทบทวนกลยุทธ์ของตัวเองใหม่ และกลับมาใส่ใจความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น มิเช่นนั้นอาจสูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันที่เคยมีไปในที่สุด