สาวก 5G เตรียมตัวเฮ! T-Mobile เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด “T-Priority” ที่ใช้เทคโนโลยี 5G Standalone (SA) ขั้นสูง เพื่อช่วยเหลือหน่วยกู้ภัยในลอสแอนเจลิส
T-Mobile ได้นำเทคโนโลยี 5G Network Slicing มาใช้ในการสร้างและจัดการเครือข่าย 5G แบบแยกส่วน เปรียบเสมือนการแบ่งเลนบนถนนใหญ่ออกเป็นหลายเลน โดยแต่ละเลนสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะได้
ล่าสุด T-Mobile ได้เปิดตัวบริการ T-Priority ในนิวยอร์กเมื่อปีที่แล้ว และตอนนี้กำลังขยายไปยังลอสแอนเจลิส โดยมีสมาชิกของหน่วยดับเพลิง LAFD กว่า 350 คนใช้งานอยู่
T-Priority ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง?
T-Priority ใช้เทคโนโลยี 5G Standalone (SA) ซึ่งเป็นเครือข่าย 5G ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ 5G โดยเฉพาะตั้งแต่ต้น ทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเครือข่าย 5G ทั่วไปที่ดัดแปลงมาจาก 4G ในด้านต่างๆ ดังนี้:
- ความเร็วสูงกว่า
- ความหน่วงต่ำกว่า
- ประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูงกว่า
ปัจจุบันมีเพียง T-Mobile และ Dish Network เท่านั้นที่มีเครือข่าย 5G SA ครอบคลุมทั่วประเทศในสหรัฐอเมริกา
ประโยชน์ของ T-Priority สำหรับหน่วยกู้ภัย
T-Priority มอบสิทธิพิเศษให้กับหน่วยกู้ภัยดังนี้:
- ความจุเครือข่ายสูงสุด
- ลำดับความสำคัญสูงสุดในการใช้งาน
- ความเร็ว 5G ที่เร็วกว่าปกติ
นอกจากนี้ T-Mobile ยังมีทีมวิศวกรฉุกเฉินคอยช่วยเหลือการสื่อสารของหน่วยกู้ภัยในช่วงวิกฤตไฟป่าอีกด้วย
“เรากำลังได้รับคำขอจำนวนมากสำหรับเราเตอร์ Wi-Fi ฮอตสปอต และอุปกรณ์บนเครือข่ายของเรา เนื่องจากความเร็วและความพร้อมใช้งานของเครือข่ายเรานั้นแข็งแกร่งสำหรับหน่วยกู้ภัยที่นี่” – Nicole Hudnet ที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมของทีมตอบสนองฉุกเฉินของ T-Mobile
เทคโนโลยีอื่นๆ ที่ T-Mobile ใช้
นอกจาก 5G SA แล้ว T-Mobile ยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย เช่น:
- AI
- Software-defined networking
- Network self-optimization
โดยในช่วงไฟป่า T-Mobile ได้ทำการปรับเปลี่ยนเครือข่ายแบบรีโมทกว่า 9,000 ครั้ง เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่า T-Mobile จะมีส่วนแบ่งตลาดน้อยที่สุดในกลุ่มหน่วยกู้ภัย แต่ด้วยเทคโนโลยี 5G ขั้นสูงและบริการ T-Priority นี้ กำลังช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดนี้
ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Verizon ยังไม่พร้อมเปิดใช้งาน 5G SA สำหรับหน่วยงานด้านความปลอดภัยสาธารณะในลอสแอนเจลิส T-Mobile กลับสามารถให้บริการได้แล้ว นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างแท้จริง