สายการแข่งขันในวงการโทรคมนาคมยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด T-Mobile ได้ประกาศความเคลื่อนไหวครั้งใหม่ในการขยายเครือข่าย 5G ของตนเอง ด้วยการเพิ่มคลื่นความถี่ย่านต่ำเข้ามาในพอร์ตโฟลิโอ พร้อมกับปรับเปลี่ยนการถือครองคลื่นความถี่ย่านกลางและย่านสูง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริการ 5G ทั่วประเทศ
ย้อนกลับไปในปี 2017 T-Mobile ได้เริ่มต้นก้าวแรกสู่การเป็นผู้นำด้าน 5G ด้วยการชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่านต่ำ 600 MHz จาก FCC ถึง 45% ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการให้บริการ 5G ครอบคลุมทั่วประเทศ เนื่องจากสามารถเดินทางได้ไกลและทะลุทะลวงอาคารได้ดี แม้จะไม่ให้ความเร็วสูงมากนัก
การซื้อกิจการ Sprint – ก้าวกระโดดครั้งสำคัญของ T-Mobile
การตัดสินใจครั้งสำคัญของ T-Mobile คือการซื้อกิจการ Sprint มูลค่า 26 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าทำไม T-Mobile ถึงต้องการบริษัทที่กำลังประสบปัญหาอย่าง Sprint แต่เบื้องหลังคือการได้มาซึ่งคลื่นความถี่ย่านกลาง 2.5 GHz จำนวนมหาศาลของ Sprint
T-Mobile ตระหนักดีว่าผู้ให้บริการที่ถือครองคลื่นความถี่ย่านกลางมากที่สุดจะเป็นผู้ควบคุมตลาด 5G ในสหรัฐฯ เนื่องจากคลื่นความถี่ย่านกลางมีคุณสมบัติที่ลงตัว ทั้งในแง่ความเร็วและระยะทางที่ครอบคลุม จึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “Goldilocks” ของคลื่นความถี่ 5G
การขยายคลื่นความถี่ย่านต่ำล่าสุดของ T-Mobile
ล่าสุด T-Mobile ได้ตัดสินใจเพิ่มคลื่นความถี่ย่านต่ำเข้ามาอีก โดยทำการเช่าคลื่นความถี่จาก Grain Management เป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะนำมาใช้เพื่อปิดช่องว่างในการให้บริการ 5G ทั่วประเทศ โดยมีความยืดหยุ่นในการต่อสัญญาเช่าหรือเจรจาซื้อขาดในอนาคต
ข้อตกลงระหว่าง T-Mobile และ Grain ครอบคลุมใบอนุญาตคลื่นความถี่ 26 รายการในพื้นที่สำคัญ เช่น Raleigh, Portland, Sarasota และ Austin โดยมีมูลค่าประเมินสูงถึง 675.2 ล้านดอลลาร์
การปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอคลื่นความถี่
ในขณะเดียวกัน T-Mobile ก็มีการปรับเปลี่ยนการถือครองคลื่นความถี่ย่านอื่นๆ ด้วย:
- ปี 2023 ซื้อคลื่นความถี่ 600 MHz เกือบทั้งหมดจาก Comcast
- ปี 2024 ขายคลื่นความถี่ย่านกลาง 3.45 GHz ให้กับ Columbia Capital
- ได้รับอนุญาตจาก FCC ให้จำหน่ายคลื่นความถี่ย่านสูง mmWave บางส่วนที่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม T-Mobile ยังคงสะสมคลื่นความถี่ย่านกลาง 2.5 GHz อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่มีความสำคัญต่อกลยุทธ์ 5G ของบริษัท
การเคลื่อนไหวเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ T-Mobile ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 5G อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว