T-Mobile ถูกปรับลดอันดับ หุ้นร่วงฮวบ ส่งสัญญาณการเติบโตชะลอตัว

T-Mobile downgrade sparks predictable share plunge

สถานการณ์ของ T-Mobile กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่หุ้นของบริษัทพุ่งทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ $276.49 เมื่อเดือนที่แล้ว ล่าสุดราคาหุ้นได้ร่วงลงมากกว่า $20 มาปิดที่ $255.98 ในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์จาก Citi ได้ปรับลดคำแนะนำสำหรับหุ้น T-Mobile จาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” โดยให้เหตุผลว่าบริษัทอาจไม่สามารถเติบโตได้เหนือกว่าคู่แข่งอีกต่อไป

สาเหตุที่ทำให้หุ้น T-Mobile ร่วง

  • ราคาหุ้นลดลง $3.12 (1.2%) ในช่วงเวลาซื้อขายปกติวันศุกร์
  • หลังปิดตลาด ราคาหุ้นยังคงลดลงอีก $1.97 (0.77%) มาอยู่ที่ $254.01
  • นักวิเคราะห์จาก Citi ปรับลดคำแนะนำจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” แต่ยังคงราคาเป้าหมายไว้ที่ $268
  • T-Mobile กำลังซื้อขายที่ราคาพรีเมียมเมื่อเทียบกับคู่แข่ง โดยมี P/E ratio สูงกว่า AT&T และ Verizon ถึง 70%
  • ไม่มีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะสั้นที่จะทำให้ราคาหุ้นสมเหตุสมผลมากขึ้น
หุ้นของ T-Mobile เติบโตอย่างยาวนานและมีกำไร | เครดิตภาพ-Yahoo Financial

ทางเลือกในการลดพรีเมียมของ T-Mobile

  1. เพิ่มส่วนแบ่งตลาด
  2. ซื้อกิจการบริษัทเคเบิลรายใหญ่

อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการอาจส่งผลให้:

  • การเติบโตของ T-Mobile ชะลอตัวลง
  • รายได้หลักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ผลประกอบการของ T-Mobile เทียบกับคู่แข่ง

บริษัทผลตอบแทนในรอบปีมูลค่าตลาด
T-Mobile+58.2%$293 พันล้าน
AT&T+55.9%$190.7 พันล้าน
Verizon+10.33%$183.4 พันล้าน
S&P 500+7.2%

“T-Mobile ยังคงเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา แม้จะเผชิญกับแรงกดดันจากนักวิเคราะห์ก็ตาม”

ในขณะเดียวกัน AT&T ได้รับการปรับเพิ่มคำแนะนำจาก Raymond James เป็น “ซื้อแบบเข้มข้น” พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น $29 จาก $28 เดิม นอกจากนี้ยังให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจถึง 4.18%

สถานการณ์ของ T-Mobile ในขณะนี้ถือเป็นบททดสอบสำคัญว่าบริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของสหรัฐฯ ได้ต่อไปหรือไม่ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง AT&T กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น

Facebook Comments Box

Leave a Reply