Spotify จ่อขยับค่าลิขสิทธิ์ศิลปิน หลังจับมือ Universal Music Group

Spotify-Universal deal may boost artist royalties

สายฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงนอกหน้าต่าง แต่ภายในสตูดิโอเล็กๆ ของฉัน บรรยากาศกลับอบอุ่นและน่าตื่นเต้น เมื่อข่าวล่าสุดเกี่ยวกับวงการสตรีมมิ่งเพลงเพิ่งมาถึง นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับศิลปินและนักแต่งเพลงทั่วโลก

Spotify ยักษ์ใหญ่แห่งวงการสตรีมมิ่งเพลง เพิ่งประกาศข้อตกลงใหม่กับ Universal Music Group (UMG) ซึ่งอาจนำไปสู่การจ่ายค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นให้กับศิลปิน ข้อตกลงนี้ครอบคลุมทั้งด้านเพลงและการเผยแพร่ผลงานเพลง โดยมุ่งเน้นที่จะสร้างประโยชน์ให้กับศิลปิน นักแต่งเพลง และผู้บริโภค

รายละเอียดของข้อตกลงใหม่

ข้อตกลงใหม่นี้มีจุดเด่นหลายประการที่น่าสนใจ:

  • การเปิดตัว “ข้อเสนอใหม่ที่กำลังพัฒนา”
  • ระดับการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินใหม่
  • การรวมเนื้อหาเพลงและไม่ใช่เพลงเข้าด้วยกัน
  • แคตตาล็อกเนื้อหาเสียงและภาพที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงการสร้างข้อตกลงการอนุญาตโดยตรงระหว่าง Spotify และ Universal Music Publishing Group สำหรับผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Spotify ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

ผลกระทบต่อศิลปินและอุตสาหกรรมเพลง

ข้อความที่น่าสนใจในประกาศนี้คือ:

“ข้อตกลงใหม่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของทั้งสองบริษัทต่อหลักการที่ยึดศิลปินเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้มั่นใจว่าศิลปินจะได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมตามสัดส่วนของการมีส่วนร่วมของผู้ฟังที่พวกเขาสร้างขึ้น”

นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า Spotify กำลังพิจารณาปรับปรุงระบบการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับศิลปิน โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผยชื่อ

Streaming 2.0: อนาคตของการสตรีมมิ่งเพลง

ทั้งสองบริษัทยังตกลงที่จะร่วมมือกันในการพัฒนา “Streaming 2.0” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของ UMG สำหรับขั้นตอนต่อไปในวิวัฒนาการของการสมัครสมาชิกฟังเพลง

Sir Lucian Grainge ประธานและ CEO ของ Universal Music Group กล่าวว่า:

“ข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมและขยายความร่วมมือกับ Spotify ทั้งสำหรับค่ายเพลงและสำนักพิมพ์เพลงของเรา โดยมุ่งเน้นหลักการที่ยึดศิลปินเป็นศูนย์กลางเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับศิลปินและนักแต่งเพลง รวมถึงปรับปรุงข้อเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค”

ผลกระทบต่อผู้บริโภค

แม้ว่าข่าวนี้จะน่ายินดีสำหรับศิลปินและนักแต่งเพลง แต่ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง:

  • อาจมีการเปิดตัวระดับการสมัครสมาชิกใหม่ๆ
  • ราคาของแพ็คเกจที่มีอยู่อาจเพิ่มขึ้น
  • อาจมีการเสนอสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมเพื่อแลกกับค่าบริการที่สูงขึ้น

ในขณะที่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าค่าใช้จ่ายสำหรับค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้นอาจตกอยู่กับผู้บริโภคในท้ายที่สุด

ข้อตกลงใหม่นี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งเพลง โดยมุ่งเน้นที่การสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์ของศิลปิน บริษัทเพลง และผู้บริโภค เราจะต้องติดตามดูว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อภูมิทัศน์ของการฟังเพลงออนไลน์อย่างไรในอนาคต

Facebook Comments Box

Leave a Reply