6 ฟีเจอร์สุดฮอตที่แอปเปิลยังไม่กล้าเปิดตัว ทำไมถึงไม่มีสักที?

Six Apple features overdue for innovation

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวเทคโนโลยีทุกคน วันนี้เรามาพูดคุยกันถึงเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์สุดเจ๋งที่ Apple ยังคงเมินเฉยไม่ยอมนำมาใส่ใน iPhone กันค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม Apple ถึงไม่ยอมเพิ่มฟีเจอร์เหล่านี้ทั้งๆ ที่มันมีความสำคัญและเป็นประโยชน์กับผู้ใช้มากๆ มาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง!

1. ปุ่ม “Back” ที่ใช้งานได้อย่างคงเส้นคงวา

สำหรับคนที่เคยใช้ทั้ง iPhone และ Android คงจะเข้าใจความรู้สึกนี้เป็นอย่างดีค่ะ การที่ไม่มีปุ่ม Back ที่ใช้งานได้อย่างสม่ำเสมอบน iPhone นั้นเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมากๆ เลยทีเดียว

บางครั้งเราต้องบิดมือไปกดปุ่ม X หรือลูกศรย้อนกลับที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ ซึ่งไม่สะดวกเลย โดยเฉพาะเวลาใช้มือเดียว ในขณะที่ Android มีทั้งปุ่มและท่าทางการปัดหน้าจอจากขอบซ้ายหรือขวาเพื่อย้อนกลับได้อย่างง่ายดาย

2. แถวตัวเลขบนคีย์บอร์ด

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดหายไปบน iPhone คือแถวตัวเลขบนคีย์บอร์ดค่ะ ซึ่งทำให้การพิมพ์ตัวเลขและสัญลักษณ์พิเศษต่างๆ ไม่สะดวกเท่าที่ควร

ในขณะที่บน Android เราสามารถกดค้างที่ปุ่มตัวอักษรเพื่อเข้าถึงตัวเลขและสัญลักษณ์ได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้แต่บน iPad ก็ยังมีฟีเจอร์นี้ แต่ทำไมถึงไม่มีบน iPhone นะคะ?

3. การชาร์จเร็ว

“ในปี 2025 แล้ว ทำไม iPhone ถึงยังชาร์จช้าขนาดนี้?”

นี่คือคำถามที่หลายคนสงสัยกันค่ะ แม้แต่ iPhone 16 Pro และ Pro Max ก็ยังรองรับการชาร์จสูงสุดแค่ 25W เท่านั้น ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแฟลกชิพรุ่นอื่นๆ ในตลาด

ยกตัวอย่างเช่น Motorola Edge (2024) ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 39 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ iPhone 16 Pro ต้องใช้เวลาถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที ทั้งๆ ที่แบตเตอรี่มีขนาดเล็กกว่าด้วยซ้ำ

4. อัตรารีเฟรชหน้าจอที่สูงขึ้น

ในปี 2025 แล้ว แต่ iPhone รุ่นธรรมดายังคงมีอัตรารีเฟรชหน้าจอแค่ 60Hz เท่านั้น ซึ่งถือว่าล้าหลังมากๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด

แม้แต่ iPhone 16e ที่เป็นรุ่นประหยัดราคาเพียง 600 ดอลลาร์ ก็น่าจะมีหน้าจอ 90Hz หรือ 120Hz ได้แล้ว เพื่อให้การใช้งานลื่นไหลและนุ่มนวลมากขึ้น

5. สแกนลายนิ้วมือ

Face ID อาจจะสะดวกในหลายๆ สถานการณ์ แต่ก็มีข้อจำกัดเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องสวมหน้ากากอนามัยหรืออยู่ในที่มืด

การมีตัวสแกนลายนิ้วมือเพิ่มเติมจะช่วยให้เราปลดล็อคโทรศัพท์ได้สะดวกมากขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับ Apple ที่จะนำกลับมาใช้อีกครั้ง

6. 3D Touch

3D Touch เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ทำให้ iPhone โดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในอดีต แต่น่าเสียดายที่ Apple ตัดสินใจเลิกใช้ไปแล้ว

การกดแรงๆ บนหน้าจอเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันพิเศษต่างๆ นั้นรู้สึกเป็นธรรมชาติและใช้งานง่ายกว่าการกดค้างแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หลายคนยังคิดถึงฟีเจอร์นี้อยู่เลยค่ะ

สรุปแล้ว Apple ดูเหมือนจะเลือกที่จะ “นอนหลับ” บนฟีเจอร์เหล่านี้ไปก่อน ด้วยเหตุผลทางการตลาดและกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนรู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ที่มีประโยชน์เหล่านี้บน iPhone

แล้วคุณล่ะคะ คิดว่า Apple ควรจะเพิ่มฟีเจอร์ไหนเข้ามาใน iPhone รุ่นต่อไปบ้าง? มาแชร์ความคิดเห็นกันได้เลยนะคะ!

Facebook Comments Box

Leave a Reply