สาวกแอปเปิลต้องอดใจรออีกนาน! การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Siri ที่หลายคนรอคอยจะไม่เกิดขึ้นจนถึงปี 2026 แม้ว่าแอปเปิลจะตระหนักดีถึงความจำเป็นในการปรับปรุง AI assistant ของตัวเองให้ทันสมัยและแข่งขันได้กับคู่แข่งอย่าง ChatGPT แต่ดูเหมือนว่าการพัฒนาจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้มาก
ตามรายงานจาก Mark Gurman นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านแอปเปิล เผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาโครงการ “LLM Siri” ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของ Siri โดยใช้เทคโนโลยี Large Language Model ที่พัฒนาขึ้นเองภายในบริษัท เพื่อให้ Siri มีความสามารถในการสนทนาและตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่โครงการนี้จะไม่เสร็จสมบูรณ์และพร้อมใช้งานจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิปี 2026
ทำไมต้องรอนานขนาดนี้?
การพัฒนา AI assistant ให้มีความสามารถระดับสูงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแอปเปิลต้องการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองทั้งหมด ไม่พึ่งพาบริษัทภายนอก ซึ่งต่างจากคู่แข่งอย่าง Google หรือ Microsoft ที่มีพื้นฐานด้าน AI มาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้ แอปเปิลยังมีแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างระมัดระวัง โดยเฉพาะในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการทดสอบและปรับแต่งเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างรอบคอบก่อนนำมาใช้จริง
“แอปเปิลตระหนักดีว่าจำเป็นต้องมีโซลูชันระยะยาวที่พึ่งพาเทคโนโลยีของตัวเองเท่านั้น นั่นคือ Siri รุ่นใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงอย่างสมบูรณ์” – Mark Gurman
แผนการในระยะสั้น
แม้ว่า Siri เวอร์ชันใหม่จะยังไม่พร้อมในเร็วๆ นี้ แต่แอปเปิลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีแผนดำเนินการดังนี้:
- ร่วมมือกับ OpenAI เพื่อนำ ChatGPT มาผนวกกับ Siri ในเดือนธันวาคมนี้ เป็นโซลูชันชั่วคราว
- อาจเปิดตัว Siri รุ่นใหม่ให้ชมเป็นตัวอย่างในงาน WWDC 2025 หรืองานอีเวนต์อื่นๆ ในปีหน้า
- วางแผนอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับ iOS 18.4 ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
ผลกระทบต่อตลาด AI Assistant
การที่แอปเปิลใช้เวลานานในการพัฒนา Siri รุ่นใหม่อาจส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดของบริษัทในด้าน AI assistant ได้ โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่าง Google Assistant และ Amazon Alexa มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ด้วยฐานผู้ใช้ที่ภักดีและระบบนิเวศผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง แอปเปิลอาจยังคงรักษาตำแหน่งในตลาดได้ หากสามารถนำเสนอฟีเจอร์พิเศษที่แตกต่างและมีประโยชน์จริงๆ สำหรับผู้ใช้
สรุปแล้ว แม้ว่าจะต้องรอนาน แต่การที่แอปเปิลทุ่มเทพัฒนา Siri รุ่นใหม่อย่างจริงจังก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี ที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนา AI assistant ของตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Siri เวอร์ชันใหม่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้และสร้างความประทับใจได้มากแค่ไหน