สถานการณ์ของ Samsung กำลังน่าเป็นห่วง ยักษ์ใหญ่ด้านสมาร์ทโฟนรายนี้กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้นำในหลายด้าน ทั้งการผลิตชิปประมวลผลและชิปหน่วยความจำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
ปัญหาใหญ่ของ Samsung Foundry
Samsung Foundry ซึ่งรับผิดชอบการผลิตชิป SoC กำลังประสบปัญหาประสิทธิภาพต่ำในการผลิตชิปสมรรถนะสูง โดยเฉพาะชิป 3nm ที่มีอัตราการผลิตได้เพียง 10-30% เท่านั้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงมาก จนถึงขั้นที่ Samsung ตัดสินใจไม่นำชิป Exynos 2500 ตัวใหม่มาใช้ใน Galaxy S25 ซีรีส์ที่กำลังจะเปิดตัว
นอกจากนี้ ลูกค้ารายใหญ่อย่าง Qualcomm และ Nvidia ก็หันไปใช้บริการคู่แข่งอย่าง TSMC แทน เนื่องจากปัญหาการผลิตที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ความท้าทายในตลาดชิปหน่วยความจำ
ในด้านชิปหน่วยความจำ Samsung ก็กำลังตามหลังคู่แข่งในการผลิตชิป HBM (High-Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากสำหรับเทคโนโลยี AI ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง AMD, AWS, Intel และ Nvidia หันไปเลือกผู้ผลิตรายอื่นแทน
ความพยายามในการแก้ไขปัญหา
ในงานครบรอบ 55 ปีของ Samsung CEO Han Jong-hee ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีและคุณภาพต่อความสำเร็จของบริษัท พร้อมเรียกร้องให้พนักงานทุ่มเทเพื่อรักษาความเป็นผู้นำของ Samsung โดยกล่าวว่า:
“การสร้างคุณภาพและนวัตกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความสามารถในการแข่งขัน”
นอกจากนี้ Han ยังสนับสนุนให้บริษัทมองหาโอกาสใหม่ๆ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ปัญหาเดิมที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ปัญหาการผลิตชิปของ Samsung ไม่ใช่เรื่องใหม่ ย้อนกลับไปต้นปี 2022 Samsung Foundry ก็เคยประสบปัญหาการผลิตชิป Snapdragon 8 Gen 1 ขนาด 4nm ที่มีอัตราการผลิตได้เพียง 35% เท่านั้น ส่งผลให้ Qualcomm ต้องจ่ายเงินสำหรับชิปที่เสียเหล่านี้ด้วย จนในที่สุด Qualcomm ก็ตัดสินใจย้ายไปใช้บริการ TSMC ที่มีอัตราการผลิตได้สูงถึง 70% แทน
แม้ว่า Samsung และ TSMC จะเตรียมเริ่มการผลิตชิป 2nm ในปีหน้า แต่ Samsung ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราการผลิตได้ต่ำเพียง 10-20% สำหรับชิป 3nm ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ในขณะที่ TSMC ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 62.3% เทียบกับ Samsung ที่มีเพียง 11.5%
ทางออกที่ไม่น่าพอใจ
Samsung จำเป็นต้องพึ่งพา TSMC ในการผลิตชิป Snapdragon 8 Elite สำหรับ Galaxy S25 ซีรีส์ที่กำลังจะมาถึง แต่นั่นหมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้นเนื่องจาก Qualcomm ขึ้นราคาชิป หาก Samsung ไม่สามารถปรับปรุงอัตราการผลิตได้ของตนเองได้ อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น MediaTek ที่เสนอราคาแข่งขันได้สำหรับชิป Dimensity ในรุ่นเรือธง
สถานการณ์นี้ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของ Samsung ที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาการผลิตชิปโดยเร็ว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีต่อไป