สาวกแท็บเล็ตแอนดรอยด์ระดับพรีเมียมคงต้องผิดหวังกันเป็นแถว เมื่อซัมซุงเปิดตัว Galaxy Tab S10+ และ S10 Ultra แบบเงียบๆ โดยไม่มีงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ทั้งที่เป็นรุ่นท็อปสุดของแท็บเล็ตจากค่าย แถมยังมาพร้อมชิปประมวลผลที่ไม่ใช่ตัวท็อปล่าสุดอย่างที่ควรจะเป็น
ทำไมถึงเปิดตัวเร็วกว่าปกติ?
โดยปกติซัมซุงมักจะเปิดตัวแท็บเล็ตระดับพรีเมียมทุก 18 เดือน ซึ่งก็สมเหตุสมผลเพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้อัพเกรดแท็บเล็ตบ่อยเหมือนสมาร์ทโฟน แต่ครั้งนี้ Galaxy Tab S10 series กลับมาเร็วกว่าปกติเพียงแค่ 1 ปีหลังจาก Tab S9
ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือการเลือกใช้ชิป MediaTek Dimensity 9300+ แทนที่จะเป็น Snapdragon จาก Qualcomm ที่ซัมซุงมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด
ชิปรุ่นเก่าในแท็บเล็ตรุ่นใหม่
แม้ว่า Dimensity 9300+ จะเป็นชิประดับแฟลกชิปของ MediaTek แต่ก็ยังไม่ใช่รุ่นล่าสุด เพราะ Dimensity 9400 กำลังจะเปิดตัวในอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์
จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า Dimensity 9400 มีประสิทธิภาพสูงกว่า 9300+ ถึง 20-30% ซึ่งหมายความว่า Galaxy Tab S10+ และ S10 Ultra จะมีสเปคล้าสมัยตั้งแต่วันแรกที่วางจำหน่าย ทั้งที่ยังเป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมียมราคาแพง
เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ
มีข่าวลือว่าซัมซุงพยายามพัฒนาชิป Exynos รุ่นใหม่สำหรับแท็บเล็ตโดยเฉพาะ แต่ประสบปัญหาในการผลิต จึงต้องเปลี่ยนมาใช้ชิป MediaTek แทนอย่างกะทันหัน และเนื่องจาก Dimensity 9400 ยังไม่พร้อม จึงต้องใช้ 9300+ ไปก่อน
“การเปิดตัวแท็บเล็ตพรีเมียมในช่วงที่ชิปรุ่นใหม่กำลังจะออกมา เป็นสูตรสำเร็จของยอดขายที่แย่และทำลายความเชื่อมั่นในแบรนด์”
ผลกระทบต่อผู้ใช้
แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สังเกตความแตกต่าง แต่สำหรับสาวกเทคโนโลยีที่ซื้อแท็บเล็ตราคาแพงเพื่อใช้งานหนักๆ เช่น ตัดต่อวิดีโอ 4K หรือทำงานกราฟิก อาจรู้สึกผิดหวังเมื่อพบว่าประสิทธิภาพไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
บทสรุป
แม้ว่าซัมซุงจะเป็นบริษัทเดียวที่ยังผลิตแท็บเล็ตแอนดรอยด์ระดับพรีเมียมเพื่อแข่งกับ iPad Pro แต่การตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลเสียในระยะยาว ทั้งในแง่ยอดขายและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การรอให้ชิปรุ่นใหม่พร้อมก่อนเปิดตัวน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า