สมาร์ทโฟนระดับกลางของซัมซุงกำลังทำให้แฟลกชิพอย่าง Galaxy S25 และ S24 ต้องอับอายขายหน้า! ใครจะคิดว่าโทรศัพท์ราคาประหยัดจะมีฟีเจอร์บางอย่างที่เหนือกว่ารุ่นท็อปอย่าง S25 เสียอีก มาดูกันว่าทำไมซีรีส์ A ถึงน่าสนใจกว่าที่คิด
ชาร์จเร็วกว่าแฟลกชิพ? ไม่น่าเชื่อแต่เป็นเรื่องจริง
Galaxy A56 และ A36 รุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมการชาร์จแบบสายกำลังไฟ 45W ซึ่งเทียบเท่ากับ Galaxy S25 Ultra และ S25 Plus เลยทีเดียว ในขณะที่ S25 รุ่นปกติกลับรองรับแค่ 25W เท่านั้น
นี่เป็นเรื่องที่น่าอับอายสำหรับมือถือเรือธงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งจากจีนที่มักจะมีกำลังไฟสูงกว่ามาก แม้แต่ Galaxy Z Fold 6 ที่เป็นสมาร์ทโฟนพับได้ราคาแพงก็ยังชาร์จได้แค่ 25W เท่ากับ Galaxy A26 ที่ราคาเพียง $300 เท่านั้น
ซัมซุงอาจมีเหตุผลของตัวเองที่เลือกใช้การชาร์จแบบช้าๆ แต่ในปี 2025 แล้ว มันไม่น่าจะเป็นข้ออ้างที่ผู้บริโภคยอมรับได้อีกต่อไป
One UI 7: ความล่าช้าที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ไม่เพียงแต่เรื่องฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ก็เป็นอีกจุดที่น่าผิดหวัง One UI 7 ที่มาพร้อม Android 15 ยังคงไม่พร้อมใช้งานบนมือถือเรือธงรุ่นเก่าอย่าง S24 ในขณะที่กลับมีให้ใช้บน A56, A36 และ A26 แล้ว
“มันผ่านมา 6 เดือนแล้วนับตั้งแต่ Android 15 เปิดตัวบนมือถือ Pixel แต่ผู้ใช้ Galaxy S24 ก็ยังไม่ได้อัปเดต ถ้าคุณพลาดข่าว มันจะมาถึงวันที่ 7 เมษายนสำหรับยุโรปและเอเชีย หรือ 10 เมษายนสำหรับสหรัฐอเมริกา”
เทียบกับปีที่แล้ว One UI 6 บน Android 14 ใช้เวลาเพียง 26 วันในการอัปเดตให้กับ S23 นับจากวันที่ Android 14 เปิดตัว นี่เป็นความแตกต่างที่น่าตกใจอย่างยิ่ง
บทสรุป
ซัมซุงดูเหมือนจะหยุดนิ่งกับการพัฒนาสมาร์ทโฟนเรือธงมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะรุ่นมาตรฐานที่ไม่ได้รับการอัปเกรดกล้องและความเร็วในการชาร์จมานาน การที่มือถือระดับกลางมีฟีเจอร์บางอย่างที่ดีกว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง
ถึงเวลาแล้วที่ซัมซุงจะต้องทบทวนกลยุทธ์ของตัวเอง ไม่เช่นนั้นอาจเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่าง Google Pixel และ iPhone รุ่นประหยัดได้
