สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของซัมซุงอาจมีราคาสูงขึ้นในปีหน้า เนื่องจากต้นทุนชิปประมวลผลที่เพิ่มสูงขึ้น ข้อมูลล่าสุดระบุว่า Qualcomm อาจคิดค่าชิป Snapdragon 8 Elite สูงถึง 190 ดอลลาร์ต่อชิ้น ซึ่งเป็นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรของ TSMC
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมีหลายประการ:
ปัญหาการผลิตชิป Exynos ของซัมซุง
- ซัมซุงไม่สามารถผลิตชิป Exynos 2500 ของตัวเองได้เพียงพอ เนื่องจากอัตราการผลิตชิปที่ใช้งานได้ (yield) ต่ำเกินไป อยู่ที่ประมาณ 20-30% เท่านั้น
- ทำให้ต้องใช้ชิป Snapdragon จาก Qualcomm แทนในทุกรุ่นของ Galaxy S25 ทั่วโลก
ราคาชิป Snapdragon ที่สูงขึ้น
- Qualcomm คิดค่าชิป Snapdragon 8 Elite สูงถึง 190 ดอลลาร์ต่อชิ้น
- TSMC อาจขึ้นราคาค่าผลิตชิปด้วยกระบวนการ 3nm/5nm อีก 10% ในปีหน้า
ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของชิปใหม่
แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ชิป Snapdragon 8 Elite ก็มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นมาก:
- มี Prime Core 2 แกนที่ความเร็ว 4.32 GHz
- Performance Core 6 แกนที่ความเร็ว 3.53 GHz
- ไม่มี Efficiency Core เช่นเดียวกับชิป MediaTek Dimensity 9300 และ 9400
ผลกระทบต่อราคาสมาร์ทโฟน
ด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ซัมซุงอาจหลีกเลี่ยงการขึ้นราคา Galaxy S25 ได้ยาก และอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึง Galaxy S26 ในปี 2026 ด้วย หากปัญหาการผลิตชิป Exynos ยังไม่ได้รับการแก้ไข
ซัมซุงกำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ขณะที่ต้องยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนเรือธงไปพร้อมกัน เราจะได้เห็นกันว่าบริษัทจะจัดการกับสถานการณ์นี้อย่างไรในปีหน้า