สาวกเทคโนโลยีทั้งหลายต้องตื่นเต้นแน่นอน! เพราะล่าสุดมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับ Samsung Galaxy S25 ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ แหล่งข่าววงในเผยว่า Samsung ตัดสินใจใช้ชิป Snapdragon 8 Elite จาก Qualcomm ในสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ทุกรุ่นทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากที่เคยใช้ชิป Exynos ของตัวเองในบางภูมิภาค มาดูกันว่าเรื่องนี้จะส่งผลอย่างไรบ้าง
Samsung เลือกใช้ Snapdragon 8 Elite ทั่วโลก
Samsung ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการเลือกใช้ชิป Snapdragon 8 Elite จาก Qualcomm ในสมาร์ทโฟน Galaxy S25 ทุกรุ่นทั่วโลก โดยปกติแล้ว Samsung มักจะใช้ชิป Exynos ของตัวเองในบางภูมิภาค เช่น ยุโรปและเอเชีย ส่วนในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และจีนจะใช้ชิป Snapdragon
การตัดสินใจครั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากปัญหาการผลิตชิป Exynos 2500 บนกระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรของ Samsung Foundry ที่ไม่สามารถผลิตได้ทันและเพียงพอสำหรับ Galaxy S25 Samsung จึงเลือกใช้ Snapdragon 8 Elite ที่ผลิตโดย TSMC บนกระบวนการ 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 (N3E) แทน
ผลดีต่อ Qualcomm อย่างมหาศาล
การตัดสินใจของ Samsung ส่งผลดีต่อ Qualcomm อย่างมาก โดยนักวิเคราะห์จาก JP Morgan ประเมินว่า:
- Qualcomm จะสามารถขายชิป Snapdragon 8 Elite เพิ่มขึ้นอีก 12 ล้านชิ้น
- สร้างรายได้เพิ่มให้ Qualcomm ถึง 2 พันล้านดอลลาร์
- ราคาเฉลี่ยของชิป Snapdragon 8 Elite อยู่ที่ 166.67 ดอลลาร์ต่อชิ้น
- ส่วนแบ่งตลาดของ Qualcomm ใน Galaxy S25 เพิ่มขึ้นจาก 70% เป็น 100%
- กำไรต่อหุ้นของ Qualcomm ในปี 2025 จะเพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือคิดเป็น 5% ของประมาณการของวอลล์สตรีท
ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ
Snapdragon 8 Elite for Galaxy มีการปรับแต่งพิเศษสำหรับ Samsung โดยเฉพาะ โดยมีความเร็วสูงสุดของ CPU ที่ 4.47 GHz เทียบกับ 4.32 GHz ในรุ่นปกติ ผลทดสอบ Geekbench แสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่น่าประทับใจ:
- คะแนน Single-core: 3220
- คะแนน Multi-core: 10223
แม้คะแนน Single-core จะยังตามหลัง A18 Pro ของ iPhone 16 Pro Max เล็กน้อย แต่คะแนน Multi-core นั้นสูงกว่าถึง 20%
“นี่เป็นครั้งแรกที่ Snapdragon สามารถเอาชนะ Apple A-series ได้ในการทดสอบ Multi-core ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ Qualcomm” – นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมชิป
สรุป
การตัดสินใจของ Samsung ในการใช้ Snapdragon 8 Elite ทั่วโลกนั้นส่งผลดีต่อทั้ง Samsung และ Qualcomm โดย Samsung จะได้ชิปประสิทธิภาพสูงที่ผลิตได้เพียงพอ ส่วน Qualcomm ก็ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินอย่างมหาศาล นอกจากนี้ผู้ใช้ Galaxy S25 ทั่วโลกจะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า Galaxy S25 จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสมาร์ทโฟนได้หรือไม่