ซัมซุงยืนยัน! Exynos 2600 ชิป 2nm แรกของโลก พร้อมเปิดตัวปี 2026

Samsung pushes ahead with Exynos 2600 despite low yields

สาวกแอปเปิลและซัมซุงต้องตาลุกวาว! เพราะการแข่งขันด้านชิปประมวลผลระดับ 2 นาโนเมตรกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้นำในครั้งนี้อาจไม่ใช่แอปเปิลอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้

ตามรายงานล่าสุด ซัมซุงยืนยันว่าจะเดินหน้าพัฒนาชิป Exynos 2600 บนกระบวนการผลิต 2 นาโนเมตรต่อไป แม้จะมีข่าวลือว่าอัตราการผลิตชิปที่ใช้ได้จริง (yield) อยู่ในระดับต่ำมากเพียง 10-20% เท่านั้น ซึ่งทำให้หลายคนคาดว่าซัมซุงอาจยกเลิกโครงการนี้ไป

แต่โฆษกของซัมซุงออกมายืนยันว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และบริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะผลิตชิป Exynos 2600 ให้ทันใช้งานบนสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในปี 2026

ทำไมชิป 2 นาโนเมตรถึงสำคัญ?

ชิปประมวลผลที่ผลิตด้วยกระบวนการ 2 นาโนเมตรจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับชิป 3 นาโนเมตรในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้สมาร์ทโฟนมีสมรรถนะดีขึ้นและแบตเตอรี่อึดขึ้น

แต่การผลิตชิปขนาดเล็กระดับนี้เป็นความท้าทายทางเทคโนโลยีอย่างมาก ทำให้มีเพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่สามารถทำได้

การแข่งขันระหว่างซัมซุงและแอปเปิล

เดิมทีคาดว่าแอปเปิลจะเป็นผู้นำในการใช้ชิป 2 นาโนเมตรบน iPhone 17 ในปี 2025 แต่ล่าสุดมีรายงานว่าแอปเปิลอาจเลื่อนแผนออกไป โดยยังคงใช้ชิป 3 นาโนเมตรรุ่นใหม่แทน

ในขณะที่ซัมซุงยืนยันว่าจะใช้ชิป Exynos 2600 ที่ผลิตด้วยกระบวนการ 2 นาโนเมตรบน Galaxy S26 ในต้นปี 2026 ซึ่งอาจทำให้ซัมซุงกลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้แทน

ความท้าทายของซัมซุง

แม้ซัมซุงจะยืนยันแผนการผลิตชิป 2 นาโนเมตร แต่ความท้าทายสำคัญคืออัตราการผลิตชิปที่ใช้งานได้จริง (yield) ที่ยังต่ำมาก ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตอย่างมาก

“ผมยืนยันได้ว่าข่าวลือเรื่องการยกเลิกการผลิตชิป Exynos 2600 ไม่เป็นความจริง และเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูล” โฆษกซัมซุงกล่าว

ซัมซุงจำเป็นต้องปรับปรุงอัตราการผลิตให้สูงขึ้นอย่างมากภายในเวลาไม่กี่ปี เพื่อให้สามารถผลิตชิปได้ในปริมาณมากพอสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง

สรุป

การแข่งขันด้านชิป 2 นาโนเมตรระหว่างซัมซุงและแอปเปิลกำลังทวีความเข้มข้น โดยซัมซุงอาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแทนที่แอปเปิล หากสามารถเอาชนะความท้าทายด้านการผลิตได้สำเร็จ

เราจะได้เห็นว่าใครจะเป็นผู้ชนะในสงครามชิปครั้งนี้ และผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

Facebook Comments Box

Leave a Reply