สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของซัมซุงกำลังทำลายสถิติยอดขายอย่างน่าทึ่ง! Galaxy S25 Series สามารถทำยอดขายทะลุ 1 ล้านเครื่องในเกาหลีใต้ได้ภายในเวลาเพียง 21 วัน นับเป็นการทำลายสถิติเดิมของ Galaxy Note 10 ที่เคยทำไว้ที่ 25 วัน เมื่อ 5 ปีครึ่งที่แล้ว
ความสำเร็จครั้งนี้น่าประหลาดใจอย่างมาก เนื่องจาก Galaxy S25 Series มีความคล้ายคลึงกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง S24 ค่อนข้างมาก อีกทั้งยังเผชิญกับปัญหาต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับปากกา S Pen การชาร์จ กล้อง และความร้อน แต่ผลลัพธ์ทางการตลาดกลับออกมาน่าประทับใจเกินคาด
ยอดขายที่น่าทึ่งในเกาหลีใต้
Galaxy S25 Series เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มกราคม และวางจำหน่ายทั่วโลก 2 สัปดาห์ต่อมา โดยใช้เวลาเพียง 21 วันนับจากวันวางจำหน่าย ในการทำยอดขายทะลุ 1 ล้านเครื่องในเกาหลีใต้ บ้านเกิดของซัมซุง นี่คือยอดขายจริงที่อยู่ในมือผู้ใช้งานแล้ว ไม่ใช่แค่ยอดจอง
เมื่อเทียบกับ Galaxy S24 Series ที่ใช้เวลาถึง 28 วันในการทำยอดขาย 1 ล้านเครื่องเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่า S25 Series ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วกว่ามาก
S25 Ultra ครองแชมป์ยอดขาย
ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ Galaxy S25 Ultra รุ่นท็อปสุดมียอดขายสูงถึงประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมด 1 ล้านเครื่อง นั่นหมายความว่า S25 Ultra ขายดีกว่า S25 และ S25 Plus รวมกันเสียอีก!
“ยอดขายที่น่าทึ่งนี้เป็นผลมาจากสเปคระดับท็อปทั้งโปรเซสเซอร์ หน่วยความจำ และกล้อง รวมถึงราคาที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นจาก S24 Series” – ซัมซุงกล่าว
สีที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับ S25 Ultra ได้แก่ Titanium Silver Blue และ Titanium White Silver ส่วน S25 และ S25 Plus สีที่ขายดีที่สุดคือ Ice Blue และ Silver Shadow
มุมมองต่อความสำเร็จในตลาดโลก
แม้ซัมซุงจะยังไม่เปิดเผยตัวเลขยอดขายในภูมิภาคอื่นๆ แต่มีสัญญาณที่ดีจากการที่บางสีของ S25 Series เริ่มขาดตลาดในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม คาดว่าความแตกต่างของยอดขายระหว่าง S25 Ultra กับรุ่นอื่นๆ จะไม่ห่างกันมากเท่าในเกาหลีใต้
ถึงแม้จะยังเร็วเกินไปที่จะสรุป แต่ดูเหมือนว่า Galaxy S25 Ultra มีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ระดับไฮเอนด์ที่ขายดีที่สุดในโลกประจำปี 2025 เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง S24 Ultra
ความสำเร็จของ Galaxy S25 Series ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าซัมซุงยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือก็ตาม
