สมาร์ทโฟนและชิปเซ็ตกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่ใครจะเป็นผู้นำในการผลิตชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูงในอนาคต? Samsung Foundry กำลังพยายามไล่ตาม TSMC ผู้นำตลาดที่ครองส่วนแบ่งถึง 65% ขณะที่ Samsung เองมีเพียง 18% เท่านั้น
ล่าสุด Samsung ได้แต่งตั้ง Han Jin-man ขึ้นเป็นประธานธุรกิจ Foundry คนใหม่ โดยเขามีแผนกลยุทธ์สองทางเพื่อสู้กับ TSMC และรักษาระยะห่างจาก SMIC ผู้ผลิตชิปอันดับ 3 จากจีน
แผนกลยุทธ์ใหม่ของ Samsung Foundry
Han Jin-man วางแผนกลยุทธ์สองแนวทางดังนี้:
- เพิ่มผลผลิต (Yield) ของการผลิตชิป 2nm ให้สูงขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าไม่ให้หนีไปหา TSMC
- ขยายธุรกิจการผลิตชิปขนาด 10nm ขึ้นไป เพื่อให้โรงงานทำงานใกล้เคียงกำลังการผลิตเต็มที่มากขึ้น
ทั้งนี้ Samsung Foundry กำลังเผชิญปัญหาผลผลิตต่ำในการผลิตชิป 2nm โดยอยู่ที่ 20-30% เทียบกับ TSMC ที่ทำได้ถึง 60% ในการทดสอบ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นสำหรับลูกค้า
ความท้าทายของ Samsung
แม้ Samsung จะเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีทรานซิสเตอร์แบบ Gate-all-around (GAA) ในโหนด 3nm แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากลูกค้ามากนัก เนื่องจากปัญหาผลผลิตต่ำ
“ทรานซิสเตอร์ GAA ใช้แผ่นนาโนแนวนอนวางซ้อนกันในแนวตั้ง ทำให้ประตูสามารถควบคุมช่องทางได้ทั้ง 4 ด้าน ช่วยลดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลให้ชิปมีสมรรถนะสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น”
นอกจากนี้ Samsung ยังต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันคู่แข่งอย่าง TSMC ที่จะเริ่มใช้ทรานซิสเตอร์ GAA ในการผลิตชิป 2nm ในปีหน้า
มุมมองต่ออนาคต
แม้ Samsung จะมีแผนกลยุทธ์ใหม่ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถดำเนินการได้สำเร็จหรือไม่ และจะช่วยให้ Samsung ไล่ตาม TSMC ได้ทันหรือรักษาระยะห่างจาก SMIC ได้หรือเปล่า
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่เข้มข้นในอุตสาหกรรมผลิตชิปจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคในระยะยาว เพราะจะทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ และชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นในอนาคต