สาวกสมาร์ทโฟนต้องผิดหวังแน่นอน เมื่อซัมซุงประกาศลดงบประมาณมหาศาลสำหรับธุรกิจผลิตชิปของบริษัท ถึงแม้ว่าซัมซุงจะมีการเติบโตโดยรวม แต่แผนกผลิตชิปกลับประสบปัญหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา
ล่าสุดซัมซุงได้ตัดงบลงทุนสำหรับโรงงานผลิตชิปลงครึ่งหนึ่งสำหรับปี 2025 หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วก็ได้ปลดพนักงานออกถึง 30% แล้ว สาเหตุหลักที่ต้องลดขนาดธุรกิจลงก็คือการขาดลูกค้ารายใหญ่นั่นเอง
ปัญหาใหญ่ของซัมซุง Foundry
ปัญหาสำคัญที่ซัมซุง Foundry กำลังเผชิญคือ:
- ไม่สามารถดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ได้
- กระบวนการผลิตชิป 3 นาโนเมตรยังไม่เสถียร ทำให้อัตราการผลิตต่ำ
- ต้องยกเลิกการใช้ชิป Exynos ในสมาร์ทโฟนเรือธง Galaxy S25
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ซัมซุงต้องลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก แม้ว่าจะมีโรงงานใหม่ที่เท็กซัสก็ตาม
ความหวังยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ตาม ซัมซุงยืนยันว่ายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรและ 1.4 นาโนเมตรต่อไป นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทก็สามารถทำให้กระบวนการผลิตชิป 3 นาโนเมตรมีความเสถียรมากขึ้นแล้ว
“เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ทั้ง 2 นาโนเมตรและ 1.4 นาโนเมตร” – โฆษกซัมซุง
นอกจากนี้ ซัมซุงยังวางแผนที่จะนำชิป Exynos 2500 กลับมาใช้ในสมาร์ทโฟนตระกูล Z ในอนาคตอีกด้วย
ความสำเร็จของซัมซุง Foundry สำคัญอย่างไร
หากซัมซุง Foundry สามารถฟื้นตัวและประสบความสำเร็จได้ จะส่งผลดีหลายประการ:
- ทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดการผลิตชิป ลดการผูกขาดจาก TSMC
- ซัมซุงสามารถพัฒนาชิป Exynos ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- อาจเกิด “Apple Silicon Moment” ของซัมซุง ที่จะปฏิวัติวงการสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อป
ดังนั้น แม้ว่าตอนนี้ซัมซุง Foundry จะกำลังเผชิญปัญหา แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะกลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งในอนาคต หากสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปให้ทัดเทียมคู่แข่งได้สำเร็จ