สมาร์ทโฟนเก่าของคุณอาจเป็นส่วนหนึ่งของโอกาสทางธุรกิจมูลค่ามหาศาลถึง 150 พันล้านดอลลาร์! ผลสำรวจล่าสุดจากผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 10,000 คนใน 26 ประเทศทั่วโลก เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ที่กำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจแบบหมุนเวียนมากขึ้น ทั้งในแง่ของการรีไซเคิล การซ่อมแซม และการนำกลับมาใช้ใหม่
ผู้บริโภคพร้อมจ่ายเพิ่มเพื่อสิ่งแวดล้อม
ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่ากว่า 70% ของผู้บริโภคทั่วโลกยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อโทรศัพท์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมมือถือในการปรับเปลี่ยนสู่แนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ดีต่อโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อธุรกิจอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่อย่าง T-Mobile, Verizon และ AT&T ก็กำลังปรับตัวสู่โมเดลธุรกิจแบบหมุนเวียนเช่นกัน โดย 90% ของผู้ให้บริการได้นำรูปแบบนี้มาใช้แล้ว โดยเฉพาะการรีเฟอร์บิชและการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์
“การผนวกแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนเข้ากับผลิตภัณฑ์และการดำเนินธุรกิจจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่ในแง่ของความยั่งยืนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการแข่งขันด้วย” – อินฮี ชุง รองประธานฝ่ายความยั่งยืนองค์กรของซัมซุง กล่าว
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มุ่งสู่ความยั่งยืน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายสมาร์ทโฟนใหม่ชะลอตัวลง โดยผู้บริโภคใช้งานอุปกรณ์นานขึ้นเฉลี่ย 1 ปีเมื่อเทียบกับ 10 ปีก่อน ขณะเดียวกันตลาดมือถือมือสองและรีเฟอร์บิชก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- 85% ของผู้บริโภคทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน มากกว่าปัจจัยด้านดีไซน์ (73%) หรือฟีเจอร์ AI (67%)
- ในฝรั่งเศส 1 ใน 6 ของสมาร์ทโฟนที่ขายในปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องรีเฟอร์บิช
- ในอินเดีย กว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจสนใจซื้อสมาร์ทโฟนรีเฟอร์บิชเป็นเครื่องต่อไป
- 2 ใน 3 ของผู้บริโภคทั่วโลกยอมรับว่าสมาร์ทโฟนเครื่องปัจจุบันหรือเครื่องก่อนหน้าเคยต้องซ่อมแซม
คาดการณ์ว่าตลาดสมาร์ทโฟนรีเฟอร์บิชและบริการซ่อมแซมจะมีมูลค่าสูงถึง 150 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตและผู้ให้บริการเครือข่าย
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปรับตัวของอุตสาหกรรม
ในปี 2024 มีการจำหน่ายสมาร์ทโฟนใหม่กว่า 1.2 พันล้านเครื่อง ส่งผลให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 60 ล้านตันในกระบวนการผลิต องค์การสหประชาชาติระบุว่าขยะอิเล็กทรอนิกส์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพคิดเป็นมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซมและรีเฟอร์บิชอุปกรณ์สามารถลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมาก โดยช่วยลดการปล่อยมลพิษได้ถึง 90% เมื่อเทียบกับการผลิตสมาร์ทโฟนใหม่
ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายรายเริ่มปรับตัวสู่แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนแล้ว เช่น:
- Fairphone 5 และ HMD Skyline ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระยะยาว
- Samsung และ Apple กำลังพัฒนาห่วงโซ่อุปทานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ภาครัฐในหลายประเทศก็เริ่มออกกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปที่จะบังคับใช้กฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการออกแบบเชิงนิเวศ ซึ่งมุ่งเน้นการซ่อมแซม ความทนทาน การนำกลับมาใช้ใหม่ และการรีไซเคิล ภายในปีนี้
วงจรชีวิตของสมาร์ทโฟน
วงจรชีวิตของสมาร์ทโฟนเริ่มต้นจากการขุดวัตถุดิบ เช่น ทองแดง ทองคำ โคบอลต์ ลิเธียม และแร่หายาก จากนั้นนำมาผลิตเป็นชิ้นส่วนต่างๆ และประกอบเป็นอุปกรณ์ ก่อนจะส่งต่อไปยังผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง และผู้ให้บริการเครือข่าย จนถึงมือผู้บริโภค
เมื่อหมดอายุการใช้งาน สมาร์ทโฟนอาจถูกนำไปรีเฟอร์บิช รีไซเคิล หรือกำจัดทิ้ง โดยมีบริษัทรีเฟอร์บิชและรีไซเคิลช่วยนำอุปกรณ์เก่ากลับมาใช้ใหม่หรือนำวัสดุมีค่ากลับคืน
วงจรชีวิตของสมาร์ทโฟนเกี่ยวข้องกับหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การทำเหมือง การขนส่ง การค้าปลีก ไปจนถึงการจัดการของเสีย แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมนี้
การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนจึงไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจมูลค่ามหาศาลที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม ในขณะที่ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะสนับสนุนแนวทางที่ยั่งยืนมากขึ้นแล้ว