เทคโนโลยีโลกเสมือนกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Meta ก็ต้องเผชิญกับความท้าทาย ล่าสุดมีข่าวว่า Meta ได้ยกเลิกแผนการพัฒนา Quest Pro 2 ซึ่งเป็นอุปกรณ์ VR รุ่นไฮเอนด์ที่หลายคนรอคอย เรามาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น และจะส่งผลอย่างไรต่ออนาคตของเทคโนโลยี XR
เหตุผลที่ Meta ยกเลิก Quest Pro 2
Meta มีแผนที่จะพัฒนา Quest Pro 2 เพื่อแข่งขันกับ Apple Vision Pro โดยตั้งชื่อรหัสว่า “La Jolla” และมีกำหนดเปิดตัวในปี 2027 แต่ปัญหาสำคัญคือ:
- จอแสดงผล micro-OLED ที่ใช้ใน Apple Vision Pro มีราคาแพงมาก
- Meta ต้องการให้ราคาของ Quest Pro 2 ต่ำกว่า $1,000 ซึ่งเป็นไปไม่ได้หากใช้จอคุณภาพสูงแบบเดียวกับ Apple
- กลยุทธ์ของ Meta คือการผลิตอุปกรณ์ VR คุณภาพดีในราคาที่แข่งขันได้ เพื่อขยายตลาด XR
ด้วยเหตุนี้ Meta จึงตัดสินใจยกเลิกโครงการ Quest Pro 2 เนื่องจากไม่สามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้
แผนการในอนาคตของ Meta
แม้จะยกเลิก Quest Pro 2 แต่ Meta ยังคงมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ XR อื่นๆ:
- กำลังพัฒนา Meta Quest 4 สองรุ่น ซึ่งน่าจะเป็นรุ่นที่ราคาเข้าถึงได้มากกว่า
- มุ่งมั่นพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ AR ที่ใช้งาน AI ซึ่งมีรูปลักษณ์ที่สังคมยอมรับได้มากกว่า
- อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่พร้อมสำหรับแว่น AR ราคาประหยัด จึงทำได้เพียงแค่สาธิตต้นแบบเท่านั้น
“Meta ต้องการสร้างอุปกรณ์ XR ที่มีราคาเข้าถึงได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและต้นทุน”
ผลกระทบต่อวงการ XR
การยกเลิก Quest Pro 2 สะท้อนให้เห็นความท้าทายในการพัฒนาอุปกรณ์ XR ระดับไฮเอนด์:
- ต้นทุนชิ้นส่วนยังสูงเกินไปสำหรับการผลิตในราคาที่ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้
- บริษัทต้องหาจุดสมดุลระหว่างคุณภาพและราคา
- อาจต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าที่เทคโนโลยี AR/VR จะพร้อมสำหรับตลาดมวลชน
อย่างไรก็ตาม นี่ยังคงเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับเทคโนโลยี XR ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ VR ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น Meta Quest 3 ซึ่งให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
สรุปแล้ว แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่อนาคตของเทคโนโลยี XR ยังคงสดใส เราจะได้เห็นนวัตกรรมใหม่ๆ จากบริษัทชั้นนำอย่าง Meta และ Apple อย่างแน่นอน ต้องติดตามกันต่อไปว่าพวกเขาจะก้าวข้ามข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและต้นทุนไปได้อย่างไร