สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Motorola มาแล้ว! Moto G55 5G และ G35 5G พร้อมเปิดตัวในยุโรปเร็วๆ นี้ ด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจและราคาที่เข้าถึงได้ มาดูกันว่าทั้งสองรุ่นนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ดีไซน์และหน้าจอ
Moto G55 5G และ G35 5G มาพร้อมดีไซน์สวยงามทันสมัย ให้เลือกทั้งแบบผิวด้านเรียบหรูและแบบหนังวีแกนนุ่มมือ
Moto G55 5G มีให้เลือก 3 สี:
- Forest Grey
- Smoky Green
- Twilight Purple
ส่วน Moto G35 5G มีสีสันสดใสกว่า:
- Leaf Green
- Guava Red
- Midnight Black
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ความละเอียด FHD+ ให้ภาพสีสันสดใส คมชัด โดย G55 5G มีขนาด 6.49 นิ้ว ส่วน G35 5G มีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.72 นิ้ว ทั้งคู่ใช้กระจก Gorilla Glass 3 เพื่อความทนทาน และรองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz แบบไดนามิก
กล้อง
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกล้องหลังคู่:
- กล้องหลัก 50MP
- กล้องมุมกว้าง 8MP (อัพเกรดจากกล้อง macro 2MP ในรุ่นก่อน)
- กล้องหน้า 16MP
Moto G55 5G มีฟีเจอร์เพิ่มเติมคือ:
- ระบบกันสั่น OIS
- เลนส์ Macro Vision
- บันทึกวิดีโอได้ทั้ง 30fps และ 60fps (G35 5G ทำได้แค่ 30fps)
ประสิทธิภาพและซอฟต์แวร์
Moto G55 5G มาพร้อมชิป MediaTek Dimensity 7025 ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ในขณะที่ G35 5G ใช้ชิป Unisoc T760
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูล:
- G55 5G: RAM 4GB/8GB/12GB, ROM สูงสุด 256GB
- G35 5G: RAM 4GB/8GB, ROM สูงสุด 256GB
- ทั้งคู่รองรับ microSD เพิ่มได้สูงสุด 1TB
ทั้งสองรุ่นมาพร้อม Android 14 พร้อมแอพ Moto Secure และ Family Space สำหรับจัดการความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ทั้งคู่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ใช้งานได้ประมาณ 1-1.5 วัน แต่ G55 5G รองรับการชาร์จเร็ว 30W ในขณะที่ G35 5G ชาร์จได้ที่ 18W
ราคาและการวางจำหน่าย
- Moto G55 5G: เริ่มต้นที่ €249 (ประมาณ 9,700 บาท)
- Moto G35 5G: เริ่มต้นที่ €199 (ประมาณ 7,700 บาท)
ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายในยุโรป ละตินอเมริกา และเอเชียแปซิฟิกบางประเทศ โดย G35 5G จะเริ่มขายในเดือนกันยายนนี้
สรุปแล้ว Moto G55 5G และ G35 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางที่น่าสนใจ ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครัน ในราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการมือถือประสิทธิภาพดี ใช้งานได้ยาวนาน ในงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก