สำหรับคนที่รอคอย iPhone รุ่นกลางราคาประหยัด คงต้องผิดหวังกันยกใหญ่แล้วล่ะค่ะ หลังจากที่มีข่าวลือมานานเกี่ยวกับ iPhone 16e ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นราคาย่อมเยาในตระกูล iPhone 16 แต่เมื่อ Apple เปิดตัวอย่างเป็นทางการ กลับทำให้ความตื่นเต้นของแฟนๆ ต้องดับวูบลงในพริบตา
ราคาสูงเกินคาด ทำลายความคาดหวัง
เหตุผลหลักที่ทำให้ผู้คนผิดหวังกับ iPhone 16e คือราคาที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดย Apple ตั้งราคาเริ่มต้นที่ $599 หรือประมาณ 21,000 บาท ซึ่งแพงกว่า iPhone SE รุ่นก่อนหน้าที่เริ่มต้นที่ $429 อย่างมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายคนคาดหวังว่าราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ $500 เท่านั้น
การตั้งราคาที่สูงขึ้นมากเช่นนี้ ทำให้ iPhone 16e ไม่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการ iPhone รุ่นราคาประหยัดอีกต่อไป ซ้ำร้ายยังมีสเปคหลายอย่างที่ถูกตัดทอนลงด้วย เช่น:
- ไม่รองรับ MagSafe
- หน้าจอรีเฟรชเรทแค่ 60Hz
- มีรอยบากขนาดใหญ่ที่หลายคนไม่ชอบ
- กล้องหลังเพียงตัวเดียว
สเปคไม่คุ้มค่ากับราคา
แม้ว่า iPhone 16e จะมาพร้อมชิป A18 เช่นเดียวกับรุ่นอื่นในตระกูล iPhone 16 และมี RAM 8GB รวมถึงรองรับ Apple Intelligence แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุ้มค่ากับราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนจากแบรนด์จีนหลายรุ่นที่มีราคาถูกกว่าแต่สเปคดีกว่า
นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งอย่าง Google Pixel 9a ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ รวมถึง Samsung Galaxy S25 FE ที่น่าจะตามมาในไม่ช้า ซึ่งอาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนระดับกลางราคาไม่แพง
พลาดโอกาสดึงลูกค้าใหม่
การตั้งราคา iPhone 16e ที่สูงเกินไปนี้ ทำให้ Apple พลาดโอกาสสำคัญในการดึงดูดผู้ใช้ใหม่ๆ ให้หันมาใช้ iOS โดยเฉพาะในช่วงที่ iPhone 16 รุ่นปกติก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนักเนื่องจากฟีเจอร์เด่นไม่มากนัก
ท้ายที่สุดแล้ว ความตื่นเต้นที่มีต่อ iPhone 16e ก็ได้มลายหายไปอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นความผิดหวังและความไม่พอใจของผู้บริโภคที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความคุ้มค่าอย่างที่คาดหวังไว้ นับเป็นโอกาสที่หลุดลอยไปของ Apple ในการขยายฐานลูกค้าด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นกลางราคาย่อมเยานั่นเอง
