สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของ Apple อาจไม่ได้รับความนิยมอย่างที่คาดหวังไว้ รายงานใหม่เผยว่ายอดขาย iPhone 16 ในสหรัฐฯ ต่ำกว่า iPhone 15 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความท้าทายที่ Apple กำลังเผชิญในตลาดสมาร์ทโฟนที่อิ่มตัว
ยอดขายที่ลดลงของ iPhone 16
iPhone 16, 16 Plus, 16 Pro และ 16 Pro Max ที่เปิดตัวในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ มียอดขายรวมกันเพียง 20% ของยอดขาย iPhone ทั้งหมดของ Apple ในสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยอดขายของ iPhone 15 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดขายลดลงอาจมาจาก:
- การเปิดตัว AI ที่ล่าช้า
- ขาดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ
- รุ่นพื้นฐานอย่าง iPhone 16 ทำยอดขายได้แค่ 4% เทียบกับ 10% ของ iPhone 15 ในปีที่แล้ว
การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนยอดขาย
แม้ภาพรวมยอดขายจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่เมื่อดูในรายละเอียดจะพบความแตกต่างที่น่าสนใจ:
- iPhone 16 Plus ทำยอดขายได้ดีขึ้นกว่า 15 Plus เล็กน้อย
- iPhone 16 Pro ยังคงรักษายอดขายไว้ได้ที่ 6% เท่ากับปีที่แล้ว
- iPhone 16 Pro Max ยอดตกจาก 9% เหลือ 6% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำไรของ Apple มากที่สุด
น่าสนใจว่ารุ่น Pro ยังคงได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ Apple ที่กำลังวางแผนเปิดตัว iPhone 17 Slim ในปีหน้า
ความแข็งแกร่งของ iPhone 15
ในขณะที่ยอดขาย iPhone 16 ลดลง iPhone 15 กลับทำยอดขายได้ดีขึ้นอย่างมาก:
- iPhone 15 Pro Max เพิ่มจาก 13% เป็น 22%
- iPhone 15 Pro และ Plus ก็มียอดเพิ่มขึ้น
- iPhone 15 รุ่นพื้นฐานลดลงเล็กน้อย แต่ไม่กระทบภาพรวม
“iPhone 15 Pro Max กลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในสหรัฐฯ ไตรมาส 3 นี้ ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับ iPhone 16 Pro Max ในปีหน้า”
นอกจากนี้ iPhone SE ยังคงทำยอดขายได้ 4% เท่าเดิม ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมากสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่เปิดตัวมานาน และยังขายดีกว่า iPhone 14 Plus อีกด้วย
ข้อมูลนี้ทำให้เราตั้งตารอการเปิดตัว iPhone SE รุ่นที่ 4 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ว่าจะสามารถสร้างปรากฏการณ์ได้อีกครั้งหรือไม่