สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่ครองใจผู้ใช้มาอย่างยาวนาน iPhone 13 Pro Max ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแม้จะผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว ด้วยสเปกที่ยังทรงพลังและฟีเจอร์ที่ครบครัน ทำให้หลายคนยังไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
ทำไม iPhone 13 Pro Max ถึงยังน่าใช้ในปี 2024?
แบตเตอรี่ที่อึดทนนาน
แม้จะผ่านการใช้งานมานาน แต่แบตเตอรี่ของ iPhone 13 Pro Max ก็ยังคงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 6-7 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แม้จะลดลงจากตอนแรกที่ใช้ได้ถึง 10 ชั่วโมง แต่ก็ยังถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป
หน้าจอคมชัดลื่นไหล
หน้าจอ ProMotion ขนาด 6.7 นิ้วที่รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz ยังคงให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ไม่สะดุดตา แม้จะไม่สว่างจ้าเท่ารุ่นใหม่ๆ แต่ก็ยังเพียงพอสำหรับการใช้งานในสภาพแสงปกติ
ประสิทธิภาพที่ยังแรง
ชิป A15 Bionic ยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการกระตุก หรือหน่วง แม้จะเป็นแอปที่ต้องการพลังประมวลผลสูง
กล้องถ่ายภาพคุณภาพเยี่ยม
แม้จะเป็นเซ็นเซอร์ขนาด 12MP แต่ก็ยังให้ภาพถ่ายที่คมชัดสวยงาม โดยเฉพาะกล้องหลักและกล้องซูม 3x ที่สามารถถ่ายภาพได้อย่างน่าประทับใจในทุกสภาพแสง
ข้อจำกัดที่อาจทำให้ต้องเปลี่ยนเครื่อง
แม้จะยังใช้งานได้ดี แต่ iPhone 13 Pro Max ก็มีข้อจำกัดบางประการที่อาจทำให้ผู้ใช้บางคนต้องการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่:
- ขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่และหนัก อาจไม่สะดวกสำหรับการพกพา
- พอร์ต Lightning ที่กำลังจะถูกแทนที่ด้วย USB-C ในรุ่นใหม่
- ไม่รองรับฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Dynamic Island หรือ Always-On Display
- กล้องซูมระยะไกลที่จำกัดแค่ 3x
อย่างไรก็ตาม หากคุณพอใจกับการใช้งานในปัจจุบัน iPhone 13 Pro Max ก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้และคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย ไม่จำเป็นต้องรีบอัปเกรดหากยังไม่มีความต้องการฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติม