Intel เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่สำหรับแล็ปท็อป พร้อมความสามารถด้าน AI ที่น่าทึ่ง! การทำงานร่วมกันระหว่าง GPU และ NPU ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะในเกม Black Myth: Wukong ที่สามารถทำ FPS ได้สูงถึง 108 เฟรมต่อวินาที
Intel เปิดตัว Core Ultra 200H และ 200HX สำหรับแล็ปท็อปเกมมิ่งและงานระดับมืออาชีพ
ในงานอีเวนต์พิเศษที่จัดขึ้นในประเทศจีน Intel ได้เปิดตัว CPU รุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Core Ultra สำหรับแล็ปท็อป ได้แก่ Core Ultra 200H และ 200HX ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแล็ปท็อปเกมมิ่ง เวิร์กสเตชั่นแบบพกพา และระบบพรีเมียมอื่นๆ
ไฮไลท์สำคัญของการเปิดตัวครั้งนี้อยู่ที่ความสามารถด้าน AI ที่ถูกบรรจุมาในชิป โดย Intel ได้สาธิตให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากการใช้งาน NPU (Neural Processing Unit) สำหรับประมวลผล AI แบบ on-device
ทดสอบประสิทธิภาพด้วยเกม Black Myth: Wukong
Intel ได้ทำการสาธิตพลังของ Core Ultra 9 285HX ผ่านการเล่นเกม Black Myth: Wukong โดยแสดงให้เห็นว่า:
- เมื่อใช้ GPU แบบ integrated ร่วมกับ AI Assistant สามารถทำ FPS ได้ที่ 94 เฟรมต่อวินาที
- เมื่อให้ NPU รับหน้าที่ประมวลผล AI Assistant แทน GPU ทำให้ FPS เพิ่มขึ้นเป็น 108 เฟรมต่อวินาที
แม้ว่าความแตกต่างจะไม่ได้มากมายนัก แต่ก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าของ NPU ในการจัดการงาน AI โดยเฉพาะ
นอกจากนี้ Intel ยังระบุว่า AI Assistant ยังสามารถทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในระหว่างการเล่นเกม โดยผู้เล่นสามารถโต้ตอบผ่านเสียงแบบ real-time เพื่อขอคำแนะนำหรือถามคำถามได้อีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Core Ultra Series 2
- เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2025
- รุ่น 285H มีประสิทธิภาพโดดเด่นในการทดสอบ single-core และ multi-core
- มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น
- GPU แบบ integrated มีพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ NPU ของ Intel มีพลังการประมวลผล AI เพียง 13 TOPS (Trillion Operations Per Second) ในขณะที่ Copilot+ ต้องการพลังอย่างน้อย 40 TOPS ซึ่งดูเหมือนว่า Intel อาจจะยังต้องพัฒนาในส่วนนี้ต่อไป
แม้ว่า NPU จะมีพลังเพียง 13 TOPS แต่ Intel ก็สามารถแสดงให้เห็นว่ามันสามารถรองรับการเล่นเกมที่ใช้เทคโนโลยี AI ใหม่ๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของการนำ AI มาใช้ในการเล่นเกมบนแล็ปท็อป
เทคโนโลยีนี้นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของวงการเกมมิ่ง ที่จะทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมบนแล็ปท็อปมีความสมจริงและลื่นไหลมากยิ่งขึ้น พร้อมฟีเจอร์ AI ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกม เราคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า Intel จะพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไปได้ไกลแค่ไหนในอนาคต
