เทคโนโลยีการนำทางและแผนที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว แต่การควบรวมระหว่าง Google Maps และ Waze ที่หลายคนคาดหวังอาจไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ แม้ว่า Google จะซื้อ Waze มาตั้งแต่ปี 2013 ด้วยมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ทั้งสองแอปก็ยังคงแยกกันทำงานมาโดยตลอด มาดูกันว่าเหตุใดการควบรวมจึงยังไม่เกิดขึ้น และอนาคตของทั้งสองแอปจะเป็นอย่างไร
ความแตกต่างระหว่าง Google Maps และ Waze
Google Maps และ Waze มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
- Waze เน้นการใช้ข้อมูลจากผู้ใช้งานแบบ crowdsourcing เพื่อรายงานสภาพการจราจรและเหตุการณ์บนท้องถนนแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ด่านตรวจ หรือสภาพอากาศ
- Google Maps ครอบคลุมการใช้งานที่กว้างกว่า นอกจากการนำทางแล้ว ยังมีข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม พร้อมรีวิวและรูปภาพจากผู้ใช้
แม้ว่า Google Maps จะเพิ่มฟีเจอร์การรายงานเหตุการณ์คล้าย Waze แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเท่า
ความพยายามในการผสานฟีเจอร์
Google พยายามนำจุดเด่นของ Waze มาใส่ใน Google Maps อย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่น:
- เพิ่มการรายงานเหตุการณ์บนท้องถนน
- ล่าสุดเพิ่มการรายงานสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการเดินทาง เช่น น้ำท่วม ถนนไม่ได้กวาดหิมะ ทัศนวิสัยต่ำ
อย่างไรก็ตาม Google ต้องระมัดระวังไม่ให้ฟีเจอร์เหล่านี้รบกวนสมาธิผู้ขับขี่มากเกินไป

เหตุผลที่ยังไม่ควบรวม
แม้จะมีการรวมทีมพัฒนาเข้าด้วยกันในปี 2022 แต่ Google ยังคงแยกแอปทั้งสองไว้ด้วยเหตุผลสำคัญ:
- กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน – ผู้ใช้ Waze ชื่นชอบการรายงานแบบละเอียด ขณะที่ผู้ใช้ Google Maps มองว่าน่ารำคาญ
- ฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่าง – Waze เน้นการเดินทาง ส่วน Google Maps ครอบคลุมกิจกรรมทั้งหมดนอกบ้าน
- ความเสี่ยงในการสูญเสียผู้ใช้ – การควบรวมอาจทำให้เสียฐานผู้ใช้ของทั้งสองแอป
“Google จะปล่อยให้ผู้ใช้ Waze ใช้ Waze ต่อไป ส่วนผู้ใช้ Google Maps ก็ใช้ Google Maps ไป”
อนาคตของทั้งสองแอป
ในอนาคตอันใกล้ Google น่าจะยังคงพัฒนาทั้งสองแอปแยกจากกัน แต่อาจมีการแลกเปลี่ยนฟีเจอร์บางอย่างระหว่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้ใช้แต่ละกลุ่มได้ดีที่สุด
สำหรับผู้ที่ต้องการรายงานสภาพอากาศใน Google Maps บน iOS สามารถทำได้โดย:
- กดปุ่ม + ขณะนำทาง
- เลือกปุ่ม “More” (จุด 3 จุด)
- เลือกรายงานสภาพอากาศที่ต้องการ
เทคโนโลยีการนำทางและแผนที่ยังคงพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง แม้ Google Maps และ Waze อาจไม่ได้ควบรวมกัน แต่ทั้งสองแอปก็จะยังคงเติบโตและปรับปรุงฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ