Google Wallet ขยายบริการ 50 ประเทศ พร้อมฟีเจอร์ใหม่ในสหรัฐฯ และอังกฤษ

Google Wallet expands globally, adds features in US and UK

Google Wallet กำลังขยายขอบเขตการให้บริการอย่างก้าวกระโดด พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร นี่เป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการใช้งานดิจิทัลวอลเล็ตให้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น

Google ได้ประกาศว่าจะขยายการสนับสนุน Google Wallet ไปยังอีก 50 ประเทศทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานบัตรดิจิทัลต่างๆ ได้ทั้งในแอปและบนเว็บ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรอีกด้วย

บัตรประจำตัวดิจิทัลมาถึงสหราชอาณาจักรแล้ว

Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์บัตรประจำตัวดิจิทัลในสหราชอาณาจักร โดยผู้ใช้สามารถสร้างบัตรประจำตัวดิจิทัลจากหนังสือเดินทางและจัดเก็บไว้ใน Google Wallet ได้

“เรากำลังร่วมมือกับ Rail Delivery Group เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลในการยืนยันคุณสมบัติสำหรับบัตรโดยสารรถไฟบางประเภทบนแพลตฟอร์มขายตั๋วของเรา” Google กล่าว

นอกจากนี้ Google ยังมีแผนที่จะเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานบัตรประจำตัวใน Wallet สำหรับการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอื่นๆ ในสหราชอาณาจักรอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสำคัญคือ:

  • บัตรประจำตัวดิจิทัลที่สร้างจากหนังสือเดินทางสหราชอาณาจักรยังไม่สามารถใช้ผ่านด่านตรวจ TSA ได้ในขณะนี้
  • บัตรดิจิทัลไม่ใช่สิ่งทดแทนบัตรประจำตัวจริง จึงควรพกบัตรจริงติดตัวไว้เสมอเมื่อจำเป็นต้องใช้
ปัจจุบันบัตร Digital ID มีจำหน่ายในสหราชอาณาจักรแล้ว | เครดิตภาพ: Google

การขยายบริการในสหรัฐอเมริกา

สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา Google ได้ประกาศว่าจะขยายการสนับสนุนบัตรประจำตัวดิจิทัลไปยังรัฐต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้:

  • Arkansas
  • Montana
  • Puerto Rico
  • West Virginia

ผู้อยู่อาศัยในรัฐเหล่านี้จะสามารถบันทึกบัตรประจำตัวดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลลงใน Google Wallet ได้

นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยในรัฐต่อไปนี้จะสามารถใช้บัตรประจำตัวดิจิทัลบนมือถือที่สำนักงานขนส่งทางบก (DMV) เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น:

  • Arizona
  • Georgia
  • Maryland
  • New Mexico

สรุป

การอัปเดตครั้งใหญ่นี้ของ Google Wallet แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Google ในการพัฒนาระบบการชำระเงินและการจัดการบัตรดิจิทัลให้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น การขยายบริการไปยัง 50 ประเทศใหม่ พร้อมกับฟีเจอร์บัตรประจำตัวดิจิทัลในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการเอกสารสำคัญและทำธุรกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้นผ่านสมาร์ทโฟน

อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรระมัดระวังและศึกษาข้อจำกัดในการใช้งานบัตรดิจิทัลให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยปูทางไปสู่สังคมไร้เงินสดและลดการใช้เอกสารกระดาษในอนาคตอันใกล้นี้

Facebook Comments Box

Leave a Reply