Google Pixel วัดไข้ได้แล้วในยุโรป! อัพเดทแอพ Thermometer รองรับ 25 ประเทศ

Google Pixel Thermometer app expands body temperature support to Europe

สาวกสมาร์ทโฟน Pixel เตรียมเฮ! Google เพิ่งประกาศขยายฟีเจอร์วัดอุณหภูมิร่างกายบนแอป Pixel Thermometer ไปยังผู้ใช้ในยุโรปแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ใช้ได้เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น นับเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความสามารถด้านสุขภาพให้กับสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นล่าสุด

รายละเอียดการอัปเดตฟีเจอร์วัดอุณหภูมิ

ฟีเจอร์วัดอุณหภูมิร่างกายนี้จะรองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่:

  • Pixel 8 Pro
  • Pixel 9 Pro
  • Pixel 9 Pro XL

ผู้ใช้จำเป็นต้องมีซิมการ์ดหรือ eSIM ที่ออกโดยผู้ให้บริการในประเทศที่รองรับเท่านั้น จึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้

รายชื่อประเทศที่รองรับ

ฟีเจอร์นี้รองรับการใช้งานในประเทศยุโรปหลายประเทศ รวมถึง:

  • ออสเตรีย
  • เบลเยียม
  • สาธารณรัฐเช็ก
  • เดนมาร์ก
  • เอสโตเนีย
  • ฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมนี
  • ฮังการี
  • ไอร์แลนด์
  • อิตาลี
  • เนเธอร์แลนด์
  • ลัตเวีย
  • ลิทัวเนีย
  • นอร์เวย์
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • โรมาเนีย
  • สโลวาเกีย
  • สโลวีเนีย
  • สเปน
  • สวีเดน
  • สวิตเซอร์แลนด์
  • สหราชอาณาจักร

นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานในสหรัฐอเมริกาเช่นเดิม

ภาษาที่รองรับ

แอปพลิเคชัน Pixel Thermometer รองรับหลากหลายภาษา ได้แก่:

  • เช็ก
  • เดนมาร์ก
  • ดัตช์
  • อังกฤษ
  • เอสโตเนีย
  • ฟินแลนด์
  • ฝรั่งเศส
  • เยอรมัน
  • ฮังการี
  • อิตาลี
  • ญี่ปุ่น
  • ลัตเวีย
  • ลิทัวเนีย
  • นอร์เวย์
  • โปแลนด์
  • โปรตุเกส
  • โรมาเนีย
  • สโลวัก
  • สโลวีเนีย
  • สเปน
  • สวีเดน

วิธีการใช้งานฟีเจอร์วัดอุณหภูมิ

การวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยสมาร์ทโฟน Pixel ทำได้ง่ายๆ ดังนี้:

  1. เปิดแอป Pixel Thermometer
  2. นำสมาร์ทโฟนวางใกล้หน้าผาก
  3. เลื่อนไปที่ขมับ
  4. แอปจะมีเสียงแนะนำขั้นตอนการใช้งาน

ผู้ใช้สามารถเลือกบันทึกผลการวัดไว้ในหน้า “ผลลัพธ์ล่าสุด” ซึ่งจะเก็บข้อมูลไว้นาน 7 วัน และสามารถส่งข้อมูลไปยังแอป Fitbit ได้อีกด้วย

“ฟีเจอร์วัดอุณหภูมินี้ช่วยให้ผู้ใช้ Pixel สามารถติดตามสุขภาพของตัวเองได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องพกเทอร์โมมิเตอร์แยกต่างหาก” ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Google จะประกาศเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในยุโรปแล้ว แต่อาจยังไม่พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ทุกเครื่องในทันที ผู้ใช้อาจต้องรออัปเดตหรือตรวจสอบการตั้งค่าผู้ให้บริการเครือข่ายก่อน

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารและอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ได้ทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของ Google ค่ะ

Facebook Comments Box

Leave a Reply