สมาร์ทวอทช์รุ่นต่อไปของ Google อาจมาพร้อมชิปประมวลผลที่ออกแบบเองโดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถของอุปกรณ์สวมใส่ยอดนิยมนี้ไปอีกขั้น
จากรายงานล่าสุดพบว่า Google กำลังพัฒนาชิป Tensor สำหรับ Pixel Watch โดยเฉพาะ ซึ่งอาจเปิดตัวในปี 2026 บน Pixel Watch 5 ชิปตัวนี้มีชื่อรหัสว่า “NPT” และจะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงานมากกว่าสมรรถนะสูงสุด สอดคล้องกับแนวโน้มของชิปสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ในปัจจุบัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Google
Google กำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการพัฒนาชิปประมวลผลสำหรับอุปกรณ์ของตัวเอง โดยเริ่มจาก:
- ชิป Tensor G5 สำหรับ Pixel 10 ในปีหน้า จะเป็นชิปที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดโดย Google เอง ไม่ได้อิงกับแพลตฟอร์ม Exynos ของ Samsung อีกต่อไป
- เปลี่ยนผู้ผลิตชิปจาก Samsung Foundry มาเป็น TSMC ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตชิป
- ใช้กระบวนการผลิตขนาด 3 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 (N3E) ของ TSMC ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้น่าจะช่วยแก้จุดอ่อนด้านประสิทธิภาพของ Pixel ในอดีต และอาจกลายเป็นจุดแข็งใหม่ของสมาร์ทโฟน Google ในอนาคต
ชิป Tensor สำหรับ Pixel Watch
สำหรับ Pixel Watch นั้น Google ก็กำลังพัฒนาชิปของตัวเองเช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ชื่อรหัส “NPT”
- คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 บน Pixel Watch 5
- มุ่งเน้นประสิทธิภาพการใช้พลังงานมากกว่าสมรรถนะสูงสุด
- ใช้แกนประมวลผลรุ่นเก่ากว่า เพื่อเน้นประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
- คาดว่าจะผลิตด้วยกระบวนการ 3 นาโนเมตรเช่นเดียวกับชิป Tensor G6 สำหรับ Pixel 11
โครงสร้างของชิป NPT คาดว่าจะประกอบด้วย:
- แกนประมวลผลประสิทธิภาพสูง Arm Cortex-A78 จำนวน 1 แกน
- แกนประมวลผลประหยัดพลังงาน Arm Cortex-A55 จำนวน 2 แกน
“เราหวังว่า Google จะสามารถสร้างความสามารถใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับ Pixel Watch ผ่านชิป NPT นี้”
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
เมื่อเทียบกับชิปสำหรับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน:
ชิป | อุปกรณ์ | โครงสร้าง |
---|---|---|
Snapdragon W5 Gen 1 | Pixel Watch 2 | แกน Cortex-A53 (ปี 2012) |
Exynos W1000 | Galaxy Watch 7, Galaxy Watch Ultra | 1x Cortex-A78 + 4x Cortex-A55 |
NPT (คาดการณ์) | Pixel Watch 5 | 1x Cortex-A78 + 2x Cortex-A55 |
จะเห็นได้ว่าชิป NPT ของ Google มีแนวโน้มที่จะใช้แกนประมวลผลรุ่นใหม่กว่า Snapdragon W5 Gen 1 แต่มีจำนวนแกนน้อยกว่า Exynos W1000 ของ Samsung ซึ่งสะท้อนถึงการมุ่งเน้นประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ Google
การพัฒนาชิปของตัวเองจะช่วยให้ Google สามารถปรับแต่งฮาร์ดแวร์ให้เข้ากับซอฟต์แวร์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจสำหรับ Pixel Watch ในอนาคต เราจะต้องติดตามกันต่อไปว่า Google จะสร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับสมาร์ทวอทช์ของพวกเขาได้บ้าง