Google ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีการเลิกจ้างพนักงานหลายร้อยตำแหน่งในทีม Platforms and Devices ซึ่งรับผิดชอบผลิตภัณฑ์สำคัญอย่าง Android, Pixel และ Chrome การปรับโครงสร้างนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทได้รวมทีม Android และ Chrome เข้ากับกลุ่ม Pixel and Devices เมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกันมากขึ้น และเน้นการใช้ AI ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของ Google
Google ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญในช่วงที่ผ่านมา โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้:
- รวมทีม Android และ Chrome เข้ากับกลุ่ม Pixel and Devices ในปี 2024
- มีพนักงานรวมกว่า 20,000 คนในกลุ่มนี้ก่อนการปรับโครงสร้าง
- เสนอโปรแกรมลาออกโดยสมัครใจในเดือนมกราคม 2025
- ล่าสุดมีการเลิกจ้างพนักงานหลายร้อยตำแหน่งในทีม Platforms and Devices
โฆษกของ Google ให้ความเห็นว่า:
“ตั้งแต่การรวมทีม Platforms และ Devices เมื่อปีที่แล้ว เราได้มุ่งเน้นไปที่การทำงานให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการลดตำแหน่งงานบางส่วน นอกเหนือจากโปรแกรมลาออกโดยสมัครใจที่เราเสนอในเดือนมกราคม”
ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและอนาคตของ Google
แม้จะมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ แต่ผู้ใช้งานทั่วไปอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางในอนาคตของ Google ที่มุ่งเน้น:
- การสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นระหว่าง Android และ Pixel
- การใช้ AI อย่างเข้มข้นทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและลดต้นทุน
แนวโน้มการปรับโครงสร้างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
การปรับโครงสร้างและลดขนาดองค์กรไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการเทคโนโลยี โดยมีตัวอย่างที่น่าสนใจดังนี้:
- T-Mobile เลิกจ้างพนักงานหลายพันตำแหน่งหลังควบรวมกิจการกับ US Cellular
- Verizon เตือนถึงการเลิกจ้างพนักงานเกือบ 5,000 ตำแหน่งในปีที่ผ่านมา
- TikTok แทนที่พนักงานหลายร้อยตำแหน่งด้วย AI ในปี 2024
ดูเหมือนว่าบริษัทเทคโนโลยีจะมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในอนาคต
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ของ Google แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรวมศูนย์การพัฒนาผลิตภัณฑ์สำคัญเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนและระบบปฏิบัติการที่มีการแข่งขันสูง อย่างไรก็ตาม เราต้องติดตามดูว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อนวัตกรรมและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในอนาคตอย่างไร