สมาร์ทโฟนยุคใหม่กำลังเข้าสู่ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะสองยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung และ Google ที่ต่างก็พัฒนาระบบ AI ของตัวเองมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ใครกันแน่ที่ทำได้ดีกว่า? วันนี้เรามาเจาะลึกเปรียบเทียบความสามารถของ Galaxy AI และ Google AI กันดีกว่า
ฟีเจอร์ที่ใช้ร่วมกัน
ทั้ง Galaxy AI และ Google AI มีฟีเจอร์พื้นฐานคล้ายคลึงกันหลายอย่าง แต่มีความแตกต่างในรายละเอียดดังนี้:
การจัดการข้อความและการแปลภาษา
- การสรุปข้อความ: Galaxy AI มีตัวเลือกให้สรุปแบบ “มาตรฐาน” หรือ “ละเอียด” ซึ่งสะดวกกว่า Google AI ที่ต้องสั่งงานด้วยเสียงเพิ่มเติม
- การถอดเสียง: ทั้งคู่ทำได้แม่นยำ แต่ Galaxy AI มีการจัดวางปุ่มควบคุมที่ใช้งานง่ายกว่า
- การตอบกลับอัตโนมัติ: Google AI มีฟีเจอร์นี้ ในขณะที่ Galaxy AI มีเพียง AI Composer ช่วยเขียนข้อความ
การแก้ไขภาพและวิดีโอ
- Circle to Search: ทั้งคู่มีฟีเจอร์นี้เหมือนกัน
- การสร้างภาพ: Google AI สร้างภาพจากคำสั่งได้ดีกว่า Galaxy AI ที่มีเพียงฟีเจอร์ Sketch to Image
- การลบวัตถุ: ทั้งคู่ทำได้ในระดับใกล้เคียงกัน ผลลัพธ์ไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป
- การแก้ภาพเบลอ: Google AI มี Photo Unblur ติดตั้งมาให้ ส่วน Galaxy AI ต้องใช้ผ่านแอพ Galaxy Enhance-X
ฟีเจอร์เฉพาะของแต่ละแบรนด์
Google AI
- สรุปการโทร: สรุปเนื้อหาการสนทนาทางโทรศัพท์ได้แม่นยำ
- Video Boost: ปรับปรุงคุณภาพวิดีโอด้วยการประมวลผลบนคลาวด์ แต่ใช้เวลานาน
- Add Me: รวมภาพถ่ายหลายภาพให้ทุกคนอยู่ในภาพเดียวกันได้
- Best Take: เลือกสีหน้าที่ดีที่สุดของแต่ละคนในภาพถ่ายได้
Galaxy AI
- Energy Score: ติดตามข้อมูลสุขภาพและให้คะแนนพลังงานรายวัน ต้องใช้อุปกรณ์สวมใส่ของ Samsung
- Live Translate/Interpreter: แปลภาษาพร้อมพูดออกเสียงได้ ปรับแต่งเสียงและความเร็วได้ แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ
บทสรุป
Google AI โดดเด่นด้านฟีเจอร์สร้างสรรค์ที่น่าสนใจ ในขณะที่ Galaxy AI เน้นการปรับแต่งได้มากกว่า Google พึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์มากกว่า ทำให้บางครั้งทำงานช้าหรือใช้งานออฟไลน์ไม่ได้
ในภาพรวม Google วางกลยุทธ์การเข้าถึงผู้ใช้ในวงกว้างผ่านการร่วมมือกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายราย ในขณะที่ Samsung มุ่งเน้นพัฒนา AI บนอุปกรณ์ของตัวเอง แต่ก็ยังต้องพึ่งพา Google AI อยู่บ้าง
ทั้งสองบริษัทต่างมีจุดแข็งของตัวเอง การแข่งขันที่ดุเดือดนี้จะผลักดันให้เทคโนโลยี AI บนสมาร์ทโฟนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน ผู้บริโภคจึงเป็นผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจากการแข่งขันครั้งนี้