สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไปของซัมซุงอาจมีราคาแพงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หากบริษัทไม่สามารถแก้ไขปัญหาการผลิตชิปเซ็ต 3 นาโนเมตรได้ทันเวลา นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจสำหรับแฟนๆ Galaxy S ที่รอคอยซีรีส์ S25 ในปีหน้า
มีรายงานล่าสุดจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง Ming-Chi Kuo ระบุว่า ราคาของชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 4 อาจเพิ่มขึ้นถึง 25-30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาของสมาร์ทโฟน Galaxy S25 เพิ่มขึ้นในสัดส่วนใกล้เคียงกัน หากซัมซุงตัดสินใจใช้ชิปเซ็ตนี้ในทุกรุ่นและทุกตลาด
ปัญหาการผลิตชิป 3nm ของ Samsung Foundry
สาเหตุสำคัญที่อาจทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น คือปัญหาการผลิตชิป 3 นาโนเมตรของ Samsung Foundry ที่ยังมีอัตราการผลิตสำเร็จ (yield) ต่ำ ทำให้ไม่สามารถผลิตชิป Exynos 2500 ได้เพียงพอกับความต้องการ ส่งผลให้ซัมซุงอาจต้องพึ่งพาชิป Snapdragon 8 Gen 4 ที่มีราคาแพงกว่าแทน
“หากอัตราการผลิตสำเร็จของ Samsung Foundry ไม่ปรับตัวดีขึ้น อาจทำให้ไม่มีชิป Exynos 2500 เพียงพอสำหรับ Galaxy S25 รุ่นทั่วไป ส่งผลให้ต้องใช้ Snapdragon 8 Gen 4 ในทุกรุ่นแทน” – Ming-Chi Kuo
ทางเลือกของซัมซุงในการกำหนดราคา Galaxy S25
หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ซัมซุงมีทางเลือกในการกำหนดราคา Galaxy S25 ดังนี้:
- ขึ้นราคาสมาร์ทโฟนตามราคาชิปที่เพิ่มขึ้น 30% โดยให้ผู้บริโภครับภาระ
- คงราคาเดิม โดยบริษัทรับภาระต้นทุนชิปที่เพิ่มขึ้นเอง
- ขึ้นราคาบางส่วน โดยแบ่งภาระระหว่างผู้บริโภคและบริษัท
ความหวังในการปรับปรุงกระบวนการผลิต
อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังว่า Samsung Foundry จะสามารถปรับปรุงอัตราการผลิตสำเร็จของชิป 3nm ได้ทันเวลา โดยในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อัตราการผลิตสำเร็จเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิมที่ต่ำกว่า 10% ในไตรมาสแรก แต่ยังต้องเพิ่มขึ้นถึง 60% จึงจะสามารถผลิตได้ในระดับอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ เรายังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า Samsung Foundry จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันหรือไม่ ก่อนที่ Galaxy S25 series จะเปิดตัวในต้นปีหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นราคาที่สูงเกินไปซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ