เทคโนโลยีที่ควรจะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น กลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานอย่างไม่น่าเชื่อ! ล่าสุดการอัปเดต One UI 6.1.1 บนสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy S22 ของซัมซุงกำลังสร้างความปวดหัวให้กับผู้ใช้งานจำนวนมาก เมื่อเกิดบั๊กร้ายแรงที่ทำให้เครื่องไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ
บั๊กร้ายแรงจากการอัปเดตเฟิร์มแวร์
การอัปเดต One UI 6.1.1 บน Galaxy S22 Series ได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับผู้ใช้งาน โดยมีอาการสำคัญดังนี้:
- เกิดการ Boot Loop หรือรีสตาร์ทเครื่องวนไปวนมาไม่หยุด
- หน้าจอกระตุก หรือค้างเป็นระยะ
- เครื่องรีสตาร์ทเองหลายครั้งต่อวัน
- เครื่องค้างและดับเองแบบสุ่ม
ปัญหาเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถใช้สมาร์ทโฟนได้ตามปกติ บางรายถึงขั้นเครื่องใช้งานไม่ได้เลย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดปัญหา
ที่น่าสนใจคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่การอัปเดตซอฟต์แวร์ของซัมซุงสร้างปัญหา ก่อนหน้านี้การอัปเดต One UI 6.1 ก็เคยสร้างปัญหาคล้ายๆ กัน จนทำให้บริษัทต้องถอนการอัปเดตและปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาแก้ไขในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา
ผู้ใช้งานสุดทน
ผู้ใช้งาน Galaxy S22 หลายรายได้แสดงความไม่พอใจผ่านฟอรัมต่างๆ ของซัมซุง โดยระบุว่า:
“ผมโพสต์เพราะปัญหา Boot Loop หลังอัปเดต One UI 6.1 กำลังแพร่กระจายไปทั่ว และผมอยากรู้ว่าปัญหานี้ใหญ่แค่ไหนกันแน่ มีใครกำลังเจอปัญหา Galaxy S22 พังหรือ Boot Loop ตลอดหลังอัปเดตบ้าง? ผมเห็นโพสต์ใหม่ๆ เกี่ยวกับปัญหานี้เกือบทุกวัน โทรศัพท์ผมทำงานปกติดีก่อนอัปเดต แต่หลังติดตั้งเสร็จ มันก็หยุดทำงานทันที ตอนนี้ติด Boot Loop และในช่วงที่หายากที่มันจะเข้าหน้าโฮมได้ มันก็จะค้างและเริ่มวนใหม่อีก”
After One UI 6.1.1, my Galaxy S22 Ultra is stuck in a bootloop. Service says it’s a motherboard issue but there is no physical damage. As a loyal user of 4 Samsung devices, I’m losing trust. @SamsungMobile what now?”@SamsungIndia @tarunvats33 @stufflistings pic.twitter.com/PJ9xQpEy8O
— Nikhil (@rocknik05) October 8, 2024
วิธีแก้ไขยังไม่ได้ผล
ทางซัมซุงได้แนะนำวิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เช่น การล้างแคช หรือ Factory Reset แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่รายงานว่าวิธีเหล่านี้ไม่ได้ผล
มีผู้ใช้งานรายหนึ่งถึงขั้นต้องให้ช่างซัมซุงมาตรวจสอบที่บ้าน ซึ่งช่างแนะนำให้เปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ แต่ก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนให้ฟรีภายใต้การรับประกัน เนื่องจากพบรอยร้าวเล็กๆ บนหน้าจอ
ปัญหาใหญ่สำหรับซัมซุง
เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของซัมซุงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงราคาของ Galaxy S22 Series ที่ค่อนข้างสูง ผู้ใช้งานรายหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นว่า:
“มันน่าตกใจมากที่โทรศัพท์ราคา 1,300 ปอนด์ (1,625 ดอลลาร์) พังหลังใช้งานเพียง 23 เดือน และการตอบสนองของซัมซุงคือเสนอค่าซ่อม 500+ ปอนด์ (635+ ดอลลาร์) สำหรับโทรศัพท์ที่ตอนนี้มีราคาขายใหม่เพียง 400 ปอนด์ (500 ดอลลาร์) เท่านั้น”
สรุป
ปัญหานี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบกับผู้ใช้งาน Galaxy S22 Series ที่ใช้ชิป Exynos 2200 ในเอเชียและยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่รุ่น Galaxy S22 Ultra ทั้งหมดที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 1 อาจไม่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการจากซัมซุงว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ผู้ใช้งานจึงต้องรอลุ้นว่าจะมีการปล่อยอัปเดตแก้ไขในเร็วๆ นี้หรือไม่