สาวกเทคโนโลยีและผู้ติดตามข่าวสารวงการโทรคมนาคมต้องจับตามองกันแล้ว! การควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง T-Mobile และ UScellular กำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ของสหรัฐฯ แต่เรื่องราวอื้อฉาวในอดีตของ UScellular อาจส่งผลกระทบต่อดีลนี้ได้ มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น
FCC เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อการควบรวมกิจการ T-Mobile และ UScellular
ทาง FCC ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่าง T-Mobile และ UScellular ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านดอลลาร์ โดยในดีลนี้ T-Mobile จะเข้าซื้อ:
- 30% ของคลื่นความถี่ที่ UScellular ถือครองใบอนุญาต
- ธุรกิจเครือข่ายไร้สายของ UScellular
- ฐานลูกค้าของ UScellular
การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้ T-Mobile ได้รับคลื่นความถี่เพิ่มขึ้น 10-131.5 เมกะเฮิรตซ์ ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 800 เคาน์ตี้ทั่วสหรัฐฯ
หากมีผู้คัดค้านการควบรวมกิจการนี้ สามารถยื่นคำร้องได้ภายในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ โดยต้องระบุประเด็นที่ต้องการคัดค้านทั้งหมดไว้ในเอกสาร
ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับธุรกรรมที่น่าสงสัยในอดีตของ UScellular
ทนายความ Mark O’Connor และ Sara Leibman ได้กล่าวหาว่า UScellular เคยใช้บริษัทบังหน้าในการซื้อคลื่นความถี่ราคาถูกที่ FCC จัดสรรไว้สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจของชนกลุ่มน้อย มูลค่าของคลื่นความถี่ที่ได้มาด้วยวิธีนี้อาจสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์
“เราไม่ได้คัดค้านการที่ T-Mobile หรือ Verizon จะเข้าซื้อคลื่นความถี่ของ UScellular แต่เราคัดค้านความพยายามของ UScellular ที่จะขายสินทรัพย์มีค่าของตน รวมถึงคลื่นความถี่ที่ถือครองโดยบริษัทในเครือ ก่อนที่จะถูกลงโทษจากการกระทำผิด” – Sara Leibman, Sara Leibman Consulting, ตุลาคม 2024
อย่างไรก็ตาม ทั้ง T-Mobile และ UScellular ชี้แจงว่าข้อกล่าวหานี้ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมปัจจุบัน จึงไม่ควรนำมาพิจารณา นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นว่าข้อร้องเรียนนี้ไม่น่าจะส่งผลต่อการอนุมัติดีลของรัฐบาลสหรัฐฯ
ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหากดีลสำเร็จ
ทั้ง T-Mobile และ UScellular อ้างว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าของทั้งสองบริษัท โดย T-Mobile คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในกลางปี 2025
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามว่าข้อกล่าวหาเกี่ยวกับธุรกรรมในอดีตของ UScellular จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณาอนุมัติหรือไม่ ทั้งนี้ FCC อาจพิจารณาชะลอการตัดสินใจจนกว่าจะมีการสอบสวนข้อกล่าวหาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน
เรื่องราวนี้ยังคงต้องติดตามกันต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วการควบรวมกิจการครั้งใหญ่นี้จะเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมของสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง