เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และล่าสุด Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ก็ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับผู้ใช้งานในยุโรป นั่นคือการลดราคาสมาชิกแบบไม่มีโฆษณาลงถึง 40% พร้อมกับปรับเปลี่ยนวิธีการแสดงโฆษณาให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรปมากขึ้น การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ใช้งานและอุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัล
ราคาใหม่ที่ถูกลงสำหรับสมาชิกแบบไม่มีโฆษณา
Meta ได้ประกาศลดราคาสมาชิกแบบไม่มีโฆษณาสำหรับผู้ใช้ในยุโรปลงอย่างมาก โดยมีรายละเอียดดังนี้:
- ราคาบนเว็บไซต์: ลดจาก €9.99 เหลือ €5.99 ต่อเดือน
- ราคาบน iOS และ Android: ลดจาก €12.99 เหลือ €7.99 ต่อเดือน
- ค่าบริการเพิ่มเติมสำหรับบัญชีเพิ่ม: €4 ต่อเดือนบนเว็บ และ €5 ต่อเดือนบน iOS/Android
สมาชิกปัจจุบันไม่ต้องดำเนินการใดๆ เนื่องจากราคาจะถูกปรับลดโดยอัตโนมัติ
การปรับเปลี่ยนการแสดงโฆษณา
นอกจากการลดราคาแล้ว Meta ยังได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงสำคัญในด้านการแสดงโฆษณา:
- ผู้ใช้ที่ไม่สมัครสมาชิกแบบไม่มีโฆษณาจะเห็นโฆษณาที่อาจไม่ตรงกับความสนใจมากนัก เนื่องจาก Meta จะใช้ข้อมูลน้อยลงในการแสดงโฆษณา
- Meta จะขอให้ผู้ใช้ในสหภาพยุโรปเลือกประสบการณ์การรับชมโฆษณาบน Facebook และ Instagram อีกครั้ง
- ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผู้ใช้ในสหภาพยุโรปที่เลือกใช้บริการฟรีพร้อมโฆษณาจะสามารถเลือกรับชม “โฆษณาที่เฉพาะเจาะจงน้อยลง” ได้
“เราจะใช้ข้อมูลน้อยลงในการตัดสินใจว่าจะแสดงโฆษณาใดให้คุณ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น Facebook และ Instagram จะแสดงโฆษณาโดยอิงจากบริบท เช่น สิ่งที่บุคคลเห็นในเซสชันนั้นๆ บนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง รวมถึงชุดข้อมูลขั้นต่ำ เช่น อายุ ตำแหน่งที่ตั้ง เพศ และวิธีที่บุคคลมีส่วนร่วมกับโฆษณา” – Meta กล่าว
เหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป Meta ระบุว่าแม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่บริษัทก็ยินดีที่จะดำเนินการตามแผน
การปรับลดราคาและเปลี่ยนแปลงวิธีการแสดงโฆษณานี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Meta ในการรักษาสมดุลระหว่างการให้บริการฟรีแก่ผู้ใช้จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดขึ้นของสหภาพยุโรป
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้จากโฆษณาของ Meta ในยุโรป แต่ก็อาจช่วยให้บริษัทหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีและเสียค่าปรับจำนวนมหาศาลในอนาคต นับเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียในยุคที่ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้กลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก